รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) รวม 14 พิกัดที่กิน ที่เที่ยวฟุกุโอกะ (Update 2024)

Aumjumma & The Gang
Aumjumma
Published in
13 min readDec 9, 2022

--

ญี่ปุ่นเที่ยวได้แล้ว รีวิวฟุกุโอกะ (Fukuoka) พาเที่ยวภูมิภาคคิวชูกัน แค่เมืองเดียวก็เที่ยวครบรส กิน เที่ยว ช้อป ถ่ายรูปตอบโจทย์ทุกสิ่ง บินแค่ 5 ชั่วโมงกว่าก็ถึงละ มาตรการเข้าประเทศญี่ปุ่นคือง่ายมาก ลงทะเบียนผ่านเว็บ Visit Japan อันเดียวพอ ไม่ต้องตรวจใดๆ ทั้งสิ้นเลยแม่ แถมใช้ง่ายในญี่ปุ่นคือสะดวกเว่อร์ พกบัตรเครดิต Krungthai Travel Card ใบเดียวจบ แตะ-รูดจ่ายสบาย เรทดี๊ดี แถมไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรูดบัตร 2.5% ด้วย อัพเดท 14 พิกัดที่เที่ยวสุดปัง ร้านอร่อยทีเด็ด ตามรอยได้ทุกพิกัด!! อัพเดทปี 2024

ดูคลิปเที่ยว Kumamoto แบบ One Day Trip ได้ที่นี่ >> https://youtu.be/hj2aLD0O88M

อัพเดทมาตรการเข้าญี่ปุ่น เที่ยวฟุกุโอกะ (Fukuoka) บินสะดวก ราคาประหยัดต้องไทยเวียตเจ็ท แค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ จากสุวรรณภูมิ จ่ายค่าตั๋วด้วย Krungthai Travel Card ได้รับประกันอุบัติเหตุการเดินทางแบบฟรีๆ

เที่ยว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ง่ายมาก เพราะมาตรการเข้าประเทศญี่ปุ่นตอนนี้คือไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องตรวจ ATK / RT-PCR ใดๆ ทั้งสิ้น แค่กรอกฟอร์มในเว็บ Visit Japan ให้ครบเป็นอันจบ มีวันละ 1 ไฟลท์ บินกลางคืน ตื่นมาเช้าก็ถึงญี่ปุ่นแล้วจ้า ตื่นมาใครหิวแนะนำสั่งอาหารทานได้ กะเพราไก่คือรสชาติจัดจ้านมาก กินแล้วตื่นเลย 555 ส่วนเบาะที่นั่งสบายไม่บางเกินไป ยืดขาสบายๆ อยู่นะ บินสะดวก ราคาประหยัดต้องไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่มีให้เลือกเพียบ เข้าไปเช็คราคาได้เลยที่ https://th.vietjetair.com

รู้กันหรือยัง ไทยเวียตเจ็ทมีโปรแกรมสมาชิก FUN Rewards ด้วยนะ เราสามารถสะสมเหรียญ Fun Coin เพื่อแลกรับส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย ทุก 10 บาท จะได้รับ 1 เหรียญ Fun Coin เมื่อจองตั๋วและเดินทางกับไทยเวียตเจ็ท ยิ่งเดินทางบ่อย ยิ่งได้เหรียญเยอะ แต่ต้องจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ของไทยเวียตเจ็ทเท่านั้นนะ

ไทยเวียตเจ็ทมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นำเหรียญ Fun Coin มาใช้เป็นส่วนลดตั๋วเครื่องบินได้ และสามารถนำเหรียญ Fun Coin มาแลกรับส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ เต่าบิน, Starbucks, Shopee, ปั้มบางจาก, และบัตรชมภาพยนตร์จากเครือ Major Cineplex อีกทัังเรายังมีสิทธิพิเศษสุดว้าวจากไทยเวียตเจ็ท ส่วนลดตั๋วเครื่องบินสูงสุด 80% ทุกเส้นทางในประเทศและต่างประเทศให้คุณได้แลกไปบินกันแบบฟินๆตลอดทั้งปีเลย สามารถสมัครผ่านช่องทาง เว็บไซต์ th.vietjetair.com/register ได้เลย สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มาเป็นครอบครัว FUN Rewards ด้วยกันนะ

ใครจะจองตั๋วเครื่องบิน ไปรีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ป้าแนะนำให้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินด้วย Krungthai Travel Card นะแกร ได้ประกันอุบัติเหตุการเดินทางแบบฟรีๆ (ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท ในกรณีใช้บัตร Krungthai Travel Visa Platinum)

เที่ยว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) สะดวกเว่อร์ พก Krungthai Travel Card บัตรเดียวจบ กิน เที่ยว ช้อป จะขึ้นรถเมล์หรือรถไฟใต้ดิน แค่แตะบัตรเป็นอันจบ

เที่ยวญี่ปุ่นแบบฟินๆ 🇯🇵 กิน เที่ยว ช้อป ในทริปรีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) รอบนี้แค่พกบัตร Krungthai Travel Card ใบเดียวจบ ความดีงามคือรองรับถึง 19 สกุลเงิน รูดจ่ายไม่มีค่าธรรมเนียมการรูด เรทดี เรทถูกเท่าร้านแลกเงินเจ้าดัง ไม่ต้องถ่อไปแลกให้ลำบาก สมัครผ่านแอป Krungthai NEXT ได้เลย รับบัตรเร็วสุด 2 วันทำการส่งให้ถึงบ้านได้บัตรมาแล้ว เปิดบัตรด้วยตนเอง และแลกเงินผ่านแอป Krungthai NEXT ได้เลยจ้า ยิ่งช่วงนี้ค่าเงินเยนคือถูกม้าก ป้านี่คอยส่องตลอด ถ้าเจอเรทดีปุ๊ป แลกเก็บไว้บัตรปั๊ป เผื่อแพลนทริปญี่ปุ่นรอบหน้าก็ได้แบบชิวๆ

แถมก่อนเดินทางสามารถกดถอนเงินสดสกุลต่างประเทศที่แลกไว้ในบัตรได้เรทดี๊ดีที่สาขา 4 สาขา (สาขานานาเหนือ / สาขาสยามพารากอน / สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว) ได้ด้วยนะ

แล้วปกติจำได้ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่น นี่จะต้องไปซื้อ IC Card อย่าง Suica เพื่อความสะดวกในการเดินทางไม่ว่าจะจ่ายร้านสะดวกซื้อ หรือจ่ายพวกรถไฟใต้ดิน รถเมล์ต่างๆ แบบไม่ต้องมานั่งแลกเหรียญพกเหรียญ แต่..เดี๋ยวนี้คือสะดวกเว่อร์!! ป้าพก Krungthai Travel Card มานี่ไม่ต้องพึ่ง IC Card ละ อย่างรถไฟใต้ดินนี่เค้าจะมีช่องเฉพาะบัตร VISA เลยจ้า เราเอาบัตรแตะผ่านได้เลย!! หรืออย่างบนรถเมล์ก็เหมือนกันตอนนี้จ่ายได้หมด สบายเลย พกบัตรเดียวพอ!!

อ่านรายละเอียดบัตร Krungthai Travel Card เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://krungthai.com/link/krungthai-travelcard-aumjumma

Isomaru Suisan ร้านอาหารทะเลปิ้งย่าง ข้าวหน้าปลาดิบสไตล์อิซากายะแถว Tenjin ราคาคุ้มค่า มีสาขาทั่วญี่ปุ่น

ก่อนออกเที่ยวแวะเติมพลังกันก่อน หนึ่งในร้านที่ฝากท้องไว้ได้ รสชาติดี แถมราคาสบายกระเป๋า นั่นคือ Isomaru Suisan วันนี้เรามากินตรงสาขาถนนช้อปปิ้ง Hakata Kawabata หลักๆ ร้านนี้จะเป็นแนวอิซากายะ ของทะเลย่าง ข้าวหน้าปลาดิบให้ได้จัดกัน โดยมื้อเที่ยงของเราวันนี้ก็เป็นข้าวหน้าปลาดิบนั่นเอง ชามนึงตกประมาณ 250–300+ บาท ราคาโออยู่นะ

ชามซ้ายเป็นข้าวหน้าอากามิ แซลมอน โทโร่สับ และ ฮามาจิ จานนึงแค่ 967 เยน ประมาณ 250 บาทเองแกร ส่วนของคุณสามีนั้นจัดเต็ม ข้าวหน้าปลาดิบรวม แถมอานาโกะ ปลาไหลทะเลญี่ปุ่นมาด้วยอีก 1 ตัว ตู้มๆ ขนาดนี้ 1,209 เยนเท่านั้น แล้วได้ซุปอีกคนละถ้วยด้วย แล้วที่ร้านเค้ามีเมนูเป็นภาษาอังกฤษด้วยสั่งง่ายยย

ไหนๆ พกบัตร Krungthai Travel Card มาแล้ว แลกเรทดีดีมาแล้วก็ต้องรูดใช้กันซักหน่อย ตอนแรกแอบลุ้น แต่พอรูดแล้วจ่ายสบายเลยจ้า ไม่มีปัญหาใดๆ

Isomaru Suisan 磯丸水産 中洲川端店 สาขา Hakata Kawabata
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/e7wPmzj4YojRRBGh7
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11.00–23.00 น.
การเดินทาง : นั่ง subway มาลงสถานี Nawasukawabata ทางออกที่ 5 เดินเข้ามาที่ตลาด Hakata Kawabata 5 นาทีถึง ร้านอยู่ขวามือ

ไปไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu ขอพรให้เรียนเก่ง เดินชิมโมจิย่างไส้ถั่วแดง แวะถ่ายรูปกับ Starbucks ที่ดีไซน์สวยงามติดอันดับโลก

ในรีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เกือบทุกเจ้า ถ้ามีเวลาซักครึ่งวันอยากเที่ยวไม่ไกลเมืองฮากาตะนั้น เค้าก็จะแนะนำให้มาเที่ยวกันที่ ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu Shrine กัน เพราะเดินทางไม่ยากเลย ถ้าอยู่แถว Hakata ก็มีรถบัสวิ่งตรงจากท่ารถบัสฮากาตะ แค่ 45 นาทีถึงสถานีดาไซฟุ คนละ 600 เยน

ซึ่งขนมชื่อดังของย่านนี้ต้องยกให้ อุเมะกาเอโมจิ เป็นแป้งโมจิเอาไปย่างร้อนๆ ไส้ข้างในเป็นถั่วแดงกวนหวานๆ อร่อยดีนะ ไหนๆ มาถึงที่นี่แล้วต้องลองซักร้าน เพราะตลอด 2 ข้างทางนี่มีร้านขายโมจิย่างเยอะม้าก ลูกนึงประมาณ​ 130 เยน

ส่วนอันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนชอบมารีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) กันนั่นก็คือร้านกาแฟ Starbucks ที่ติดอันดับสาขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ความโดดเด่นของเค้าคือดีไซน์สวยงาม มีการเทคนิคเทคนิคสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “คิกุมิ” นำไม้มาประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังคุมะ เคงโกะ

จนเดินเข้ามาถึงด้านในก่อนแวะไปศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu Shrine ก็ขอแวะ วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji Temple) ที่อยู่ใกล้ๆ กันซักหน่อย เป็นอีกหนึ่งจุดที่ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสวยเลยทีเดียว

สิ่งต่อไปที่เวลามาศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu Shrine จะเจอกับรูปปั้นวัวที่หัวเงาวับ โดยคนญี่ปุ่นเค้ามีความเชื่อกันว่าถ้าเราลูบหัวของรูปปั้นวัว จะทำให้ฉลาดขึ้น ได้รับพรด้านความรู้ เรียนประสบความสำเร็จ ใครที่กำลังเรียนอยู่ ถ้ามาแล้วก็อย่าลืมมาลองขอพรลูบกันดูนะคะ

ส่วนถัดมา เมื่อเข้าเขตศาลเจ้าเจอกับสะพานทอดข้ามสระน้ำ ชื่อว่า ชินจิอิเคะ โดยตัวสะพานก็ประกอบไปด้วย 3 สะพานเรียงต่อกันนำไปสู่ฮนเด็น (ศาลเจ้าหลัก) แต่ละสะพานแสดงถึง “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” การเดินข้ามสะพานนี้เปรียบได้กับการชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนจะเข้าพบเทพเจ้า ซึ่งตรงนี้ช่วงใบไม้แดงก็สวยอยู่ สามารถเดินเล่นถ่ายรูปกันรอบๆ ได้

หลังจากนั้นเราก็จะเดินมาเจอ ประตูสีแดงขนาดใหญ่ คนญี่ปุ่นเค้าเรียกว่าประตูโรมง พอก้าวผ่านเข้าไปจะเข้าสู่โซนด้านใน เค้าก็จะมีจำหน่ายพวกเครื่องราง รวมไปถึงมาเขียนขอพรต่างๆ ซึ่งในจังหวะที่เราไปนั้น ทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นกำลังแข่งขันฟุตบอลโลกอยู่พอดี คนเค้าก็จะมาขอพรให้ทีมประสบความสำเร็จกันด้วยค่ะ

สุดท้ายเราจะเจอศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu Shrine อยู่ด้านหน้า สำหรับเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกูคือ ซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ในอดีตเป็นนักวิชาการ นักการเมือง และนักเขียนที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้คนมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผลงานที่โดดเด่นในช่วงปีค.ศ. 800–900 จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษาเหล่านักเรียนญี่ปุ่นจึงมาไหว้ขอพรเพื่อให้สอบผ่านหรือขอให้ผลการเรียนดีขึ้น ซึ่งวิธีการไหว้ ก็คือให้โยนเหรียญใส่ลงไป โค้งคำนับ 2 ที ปรบมือ 2 ที แล้วโค้งเพื่อขอคำอธิษฐานค่ะ

ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu Shrine
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/DCbtPX7JX18jzoyFA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 06.30–18.30 น.
การเดินทาง :
รถบัส : นั่งต่อเดียวถึงจากท่ารถบัสฮากาตะ ไปลงที่สถานีดาไซฟุ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 600 เยน
รถไฟ : ไปขึ้นที่สถานีนิชิเท็ตสึฟุกุโอกะ (Nishitetsu Fukuoka) สายโอมุตะ (Omuta) ใช้เวลา 15 นาที ลงที่สถานีฟุตสึกะอิจิ (Futsukaichi) เปลี่ยนเป็นรถไฟสายดาไซฟุ (Dazaifu) นั่งไปประมาณ 5 นาทีก็จะถึงสถานีดาไซฟุ ค่าโดยสาร 400 เยน (ใช้ JR PASS ไม่ได้

ห้าง Canal City Hakata แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีครบทุกสิ่ง ร้านค้าเพียบ มีระบำน้ำพุทุกชั่วโมง

Canal City Hakata หนึ่งในห้างช้อปปิ้งมอลล์สุดอลังการในฮากาตะ (Hakata) ภายในอาคารมีคลองไหลผ่าน ที่ดีงามคือโซนช้อปปิ้งร้านค้าเพียบ ไม่ว่าจะ Uniqlo / H&M / Muji / Adidas / Fila / Donguri Kyowakoku ฯลฯ รวมๆ 200 กว่าร้านค้า ทีเด็ดคือเค้ามี Ramen Stadium ที่รวบรวมเอาร้านฮากาตะราเม็งชื่อดังมาไว้ที่นี่ด้วย

ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นที่มาดูช่วงนี้ยิ่งสวย นั่นก็คือ โชว์น้ำพุเต้นระบำจ้า เค้ามีโชว์ทุกๆชั่วโมง แต่มาตอนกลางคืนช่วงนี้จะสวยกว่า เพราะว่าภายในศูนย์การค้าตอนนี้เค้าก็มีการตกแต่ง Canal Winter Illumination ติดไฟสวยงาม โดยจะจัดวันนี้ จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566 ไปเลยจ้า

ใครเป็นสาวกกันดั้มรับรองล้มละลาย กับสวรรค์ของคนสะสมกันพล่า ต้องมาร้านนี้เลย THE GUNDAM BASE FUKUOKA ชั้น 1 South Building ใน Canal City Hakata ที่นี่ถือว่าเป็นสาขาที่ 2 ต่อจากที่โอไดบะ นอกจากหุ่นตัวธรรมดา ที่นี่เค้ายังมีตัวพิเศษเฉพาะที่ขายที่สาขานี้ด้วยน้า

ไม่ไกลกัน Gashapon Bandai Official Shop พาคุณสามีไปล้มละลายกันแล้ว แฟนกาชาอย่างเรา ต้องมาเป็นหนึ่งในช็อปที่มีเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติจำนวนมากที่สุด หมุนกันจนล้มละลายเช่นกัน เพราะมีให้สะสมกาชาเป็นร้อยๆ ตู้เลยจ้า

Canal City Hakata
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/AjK7EF5MCcdgR53UA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00–21.00 น.
การเดินทาง : เดินจากสถานี Hakata Station ประมาณ 15 นาที หรือนั่งบัสคันไหนก็ได้ที่เขียนว่า Canal City

Hakata Yatai ซุ้มขายอาหารสไตล์ยะไตแบบดั้งเดิม ที่ควรไปลองซักครั้ง!

เค้าบอกกันว่า มารีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ควรต้องลองไปทาน Hakata Yatai กันซักครั้ง เอาจิงๆ ฟีลเหมือนพวกร้านเต้นท์แดงที่เกาหลีนี่แหละ โดยแต่ละร้านจะเป็นซุ้มอาหาร ขายแนวอิซากายะ มีพวก โอเด้ง ราเมน ยากิโซบะ เกี๊ยวซ่า ฯลฯ

โดยร้านนึงนี่ก็จะนั่งได้ประมาณ 6–10 คน แม้ว่าจะนั่งได้ไม่เยอะ แต่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นเพราะเหมือนได้นั่งคุยกับเพื่อนใหม่หรือเจ้าของร้าน ซึ่งถ้าร้านไหนเต็มแล้ว คนที่มาก็ต้องรอต่อคิวด้านนอกกันยาวเลย ส่วนมากร้านจะอยู่แถวๆ ริมคลอง ถ้าไป Canal City Hakata แล้ว สามารถเดินได้ไม่ไกล

Hakata Yatai
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/8iX2YJsAPEsz2Spr7
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป
การเดินทาง : อยู่แถวๆ ริมคลอง ย่าน Nakasu Icchome บริเวณใกล้ ๆ กับสะพาน Haruyoshi-bashi

a FORNO del MIGNON ครัวซองต์คิวยาวเจ้าดังแห่งสถานี Hakata Station ขายแบบชั่งน้ำหนัก

เวลาไปรีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) แล้วต้องเดินผ่านสถานี Hakata จะต้องแอบสงสัยว่าเอ๊ะ ทำไมร้าน a FORNO del MIGNON นี้คิวยาวทุกวัน แถมกลิ่นหอมชวนหิวตลอด แล้วคือคิวนางยาวตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยนะ พอมาหาข้อมูลนี่ทุกคนบอกว่าต้องลอง!!

โดยตัวครัวซองต์ของ a FORNO del MIGNON จะมีทั้งหมด 3 รสนะ ทำกันใหม่ๆ ตลอด มีแบบ Plain / ช็อกโกแลต / มันหวาน โดยการคิดราคานั้นจะคิดราคาตามน้ำหนักของตัวครัวซองต์ เออ ก็แปลกดีนะ เริ่มต้น 150–200 เยน / 100 กรัม เป็นครัวซองต์อันจิ๋ว ตัว Plain จะมีรสหวานเคลือบด้านนอก ทำมาร้อนๆ กรอบๆ หอมเนยมาก ส่วนช็อคโกแลต กับมันหวาน จะมีไส้อยู่ด้านใน ถ้าได้มากินกับกาแฟนะจะเริ่ดมาก

a FORNO del MIGNON
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/qoCVX752JyyJs1ej6
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 7.00–23.00 น.
การเดินทาง : อยู่ในสถานี Hakata Station เลย ร้านจะอยู่ก่อนถึง Information Counter

Unseen Fukuoka วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) สายมูต้องมา ไปไหว้พระขอพร พระนอนทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องกาตัวแดงว่าต้องไปให้ได้ โดยความพิเศษของที่วัดนี้คือ มีมุมถ่ายรูปที่สวยมาก เป็นพระนอนทองสัมฤทธิ์ ทำจากสำริดหนัก 300 ตัน ยาว 41 เมตร ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปปางไสยาสน์สำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โดยการเดินทางจากตัวเมือง Hakata นั้นไม่ยาก นั่งรถไฟ JR Sasaguri มาลงยังสถานี Kido Nanzoin-mae โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาทีเท่านั้นเอง หลังจากที่เราถึงสถานี ระหว่างที่จะเดินไปวัด ก็จะเจอสะพานเมโลดี้ก่อน 2 ข้างทางของสะพานเค้าจะมีไม้ให้เราเคาะที่รางไปเรื่อยๆ จะเป็นบทเพลงกล่อมเด็กนอนของญี่ปุ่น

ส่วนบรรยากาศของที่ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) นั้นดีมาก ด้านในก็จะร่มรื่น มีหลายจุดให้เราแวะถ่ายรูป หรือไหว้พระขอพร ยิ่งมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ก็พีคอยู่ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ มีสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางศาสนาต่างๆ กระจายตัวอยู่ทั่วไปในพื้นที่ แถมที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของพิธีแสวงบุญซาซากุริ (Sasaguri Pilgrimage) ของเหล่านักแสวงบุญอีกด้วย

ระหว่างเดินไปชมพระนอนทองสัมฤทธิ์ ตอนลอดอุโมงค์มา จะเจอมุมเสาโทริอิ ตรงนี้ก็สวยอยู่นะ แวะถ่ายรูปกันได้

จนในที่สุดก็มาถึงไฮไลท์ของที่นี่ นั่นก็คือชื่ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ทำจากสำริดหนัก 300 ตัน ยาว 41 เมตร ซึ่งมีคนพูดไว้ว่าใหญ่เท่ากับเทพีเสรีภาพเลยทีเดียว ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปปางไสยาสน์สำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดนี้มีชื่อเสียงกันว่าศักดิ์สิทธิ์เรื่องการให้ลาภ เพราะระหว่างการสร้าง หลวงพ่อที่ดูแลท่านก็ถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่หลายรอบจึงกลายเป็นทุนในการสร้าง

การขอพรของที่นี่ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องการขอโชคเรื่องเงินทอง โดยเฉพาะการขอให้ถูกล็อตเตอรี่ โดยวิธีขอพรถ้าเราสังเกตุดีดีจะมีเชือก 5 สีผูกจากมือของพระพุทธรูปลงมายังตรงบริเวณโต๊ะไหว้ด้านหน้า ใครไปไหว้มาแล้วถูกหวยมาแบ่งป้าด้วยนะ

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/UVomFTtbus7zsH2i8
เวลาทำการ : วันธรรมดา 10.00–16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 09.00–17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟจาก JR Fukukita Yutaka Line (สาย 8) มาลงที่ Kido-Nanzōin-mae Station แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

ไปชิม Ichiran Ramen (อิจิรัน ราเมง) ราเมงข้อสอบในตำนาน สาขาต้นตำรับ สุดยอด Tonkotsu Ramen อร่อยจนต้องซดหมดชาม

ไหนๆ มาถึงถิ่น รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) รอบนี้ ยังไงก็ต้องมากิน Ichiran Ramen (อิจิรัน ราเมง) ราเมงข้อสอบในตำนานกันที่สาขา Nakasu คือร้านนี้ดังมาก ขนาดมีทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เหนือสุด Sapporo ยันใต้สุดอย่าง Kumamoto มีมากกว่า 80 สาขาไม่พอ ยังขยายออก สหรัฐอเมริกา / ฮ่องกง / ไต้หวันด้วย ใครที่เคยไปกินในไทย อย่าเพิ่งรวมไปนะ มันไม่ใช่ราเมงข้อสอบของแท้!!

ตอนแรกเดินมาถึงตกใจ เห็นทั้งตึกตกแต่งเหมือนว่านี่คือตึกของ Ichiran Ramen (อิจิรัน ราเมง) แต่ในความเป็นจริงนั้น เปล่าจ้า นางตกแต่งไว้เฉยๆ ของจริงคือมีให้บริการที่ชั้น 2 เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็น Office ของเมือง Hakata จ้า

วิธีการสั่งคือใช้เงินสดกดที่ตู้เท่านั้นจ้า สำหรับราเม็งชามเดียวจะอยู่ที่ 980 เยน พวกท็อปปิ้ง หมูชาชู 4 ชิ้น (260) / ไข่ 1 ฟอง (140) / เส้น (210) ก็สามารถสั่ง Top-up ได้ หรือใครจะสั่งเป็น Set แบบจัดเต็ม Ichiran Select 5 ได้ราเม็ง 1 ชาม+ไข่ 1 ฟอง+หมูชาชู สาหร่าย ก็แค่ 1,620 เยนเท่านั้น

พอเสร็จแล้วเค้าก็จะให้ใบข้อสอบเรา จิงๆ มันคือเป็นใบพวกติ๊กความต้องการเพิ่มเติม เช่น ความเข้มข้นของน้ำซุป / น้ำมัน กระเทียม หัวหอม หมูชาชู ความเผ็ด ใส่มากน้อยแค่ไหน / ความนุ่มของเส้น พอถึงรอบเราเค้าก็จะพามานั่งเป็นคอกๆ เหมือนเวลาเราไปสอบแบบนี้เลย แล้วพนักงานก็จะมารับใบจด Ichiran Ramen (อิจิรัน ราเมง) ของเราไป

รอบนี้ป้าจัดเต็มเป็น Ichiran Select 5 ก็จะได้มาหน้าตาประมาณนี้ ราเม็งของที่นี่จะเป็น Tonkotsu Ramen น้ำซุปอร่อยมากมันไม่เข้มหรือมันมากเกินไปนะ แม้ว่าจะเป็นน้ำซุปสไตล์ทงคัตสึญี่ปุ่น ส่วนความเผ็ดเค้าปรุงซอสเผ็ดที่เป็นสูตรลับเฉพาะร้าน โดยรวมได้ตรงตามที่เราติ๊กไป เส้นคือดีมาก สรุปคือฟินนนนนน

Ichiran Ramen (อิจิรัน ราเมง) สาขา Nakasu
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/k2NWRURCL4kyLDKr5
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Nakasukawabata Station ออกทางออก 2

วัดโทโชจิ (Tochoji Temple) ย่าน Gion ไฮไลท์คือฟูกุโอกะ ไดบุสสึ พระพุทธรูปนั่งที่ทำจากไม้แกะสลัก และเจดีย์สีแดง 5 ชั้น

วัดโทโชจิ (Tochoji Temple) เป็นอีกหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่เดินทางง่ายมาก อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน กิออน (Gion) เลย โดยไฮไลท์ของวัดนี้คือ ภายในวัด เค้าจะมีวิหารที่มี ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ (Fukuoka Daibutsu) พระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลักที่สร้างนานถึง 4 ปี เสร็จในปี 1993 มีความสูงถึง 10.8 เมตร แต่แอบเสียดายเค้าไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปถ่ายรูป อีกจุดนึงที่สวยก็คือมีเจดีย์ 5 ชั้นสีแดงมุมนี้ก็สวย ในวัดร่มรื่นมาก ใครผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะไปกันนะ

วัดโทโชจิ (Tochoji Temple)
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/Ugw6MfTM2JQ2yxJf8
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09.00–17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Gion ออกทางออกที่ 1

ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในฟุกุโอกะ อายุกว่า 1,200 ปี แวะมาไหว้พระขอพรให้อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จในธุรกิจ

อีกที่หนึ่งที่ควรมามู ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine) ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฟูกุโอกะ สถาปัตยกรรมในศาลเจ้า ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาชินโตยุคดั้งเดิม ตัววิหารหลักของศาลเจ้าคาดการณ์ว่ามีอายุกว่า 1,200 ปี! สร้างขึ้นมาตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.757 โดยองค์จักรพรรดิโคเคน (Koken) ให้เป็นศาลเจ้าของเทพโอคุชิดะ ซามะ โดยส่วนมากคนญี่ปุ่นจะมาขอพรให้มีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จในธุรกิจอยู่ตลอดทั้งปี

และที่สำคัญในแต่ละปี ทุกๆ เดือนกรกฎาคมของทุกปี ชาวเมืองฟุกุโอกะนิยมมาจัดเทศกาลสำคัญที่ศาลเจ้าแห่งนี้กัน เช่น เทศกาลยามากาซะ ฮากาตะ กิออน (Hakata Gion Yamakasa Festival) เทศกาลแข่งขันแห่เสลี่ยงยักษ์ (Oiyama)

ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine)
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/smWLYen4QbFCin26A
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 04.00–22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Gion ออกทางออกที่ 3 เดินอีกประมาณ 15 นาที

หอคอยฟูกุโอกะ (Fukuoka Tower) จุดชมวิวเมืองฮากาตะที่สวยที่สุดบนความสูง 234 เมตร เป็นตึกสูงลำดับ 3 ในญี่ปุ่น

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สายแลนด์ควรมาถ่ายรูป หอคอยฟูกุโอกะ (Fukuoka Tower) จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองฮากาตะได้แบบ 360 องศา หอคอยนี้มีความสูงมากถึง 234 เมตร จึงกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดของเมืองนี้ไปโดยปริยายและยังเป็นตึกสูงลำดับ 3 ในญี่ปุ่น

มาถึงก็ซื้อตั๋วกันก่อน ใครขี้เกียจรอคิวนี่ซื้อผ่าน Klook มาได้เลย สะดวกดีคนละ 203 บาท ซื้อเสร็จได้เป็น Barcode เก็บไว้ในมือถือ ตอนมาก็แค่ยื่นให้ตรงพนักงาน Scan เป็นอันเสร็จ ง่ายดี

ซื้อบัตรเข้าชม Fukuoka Tower ได้ที่นี่ >> https://bit.ly/FukuokaTower

พอเสร็จละก็จะได้ตั๋วจริงมา แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปที่จุดชมวิวบนความสูง 123 เมตร “SKY View 123” กันก่อนเรื่องวิวนี่สวยทั้งกลางวันและกลางคืน ช่วงกลางวันก็จะมองเห็นทะเลสวยๆ และตัวเมืองฟุกุโอกะ ได้แบบ 360 องศา มองเห็นสวนริมทะเลโมโมชิที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย ส่วนตอนกลางคืนก็จะได้ความสวยอีกแบบยิ่งช่วงนี้ใกล้คริสมาสต์ตัวตึก หอคอยฟูกุโอกะ (Fukuoka Tower) เค้าก็จะติด LED เป็นรูปต้นคริสมาสต์และติดไฟ LED ตรงต้นไม้บริเวณทางเข้าด้วยจ้า

จากนั้นก็สามารถเดินลงมาได้ จะมีชั้นที่เป็นร้านอาหารวิวสวยชื่อ Refuge และถ้าเดินลงไปอีกชั้นก็จะเป็นมุมถ่ายรูปต่างๆ ละ มีมุม Lover’s sancturay มุมคู่รักด้วยจ้า สามารถห้อยแม่กุญแจเหมือนที่โซลทาวเวอร์ด้วยแกร ยังไม่พอ มีตู้กดกาชาปองด้วยจ้า ครั้งละ 500 เยน เก็บไอเท็มลิมิเต็ดย่านนี้ได้ด้วย

หอคอยฟูกุโอกะ (Fukuoka Tower)
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/MJYpsdJ2cJzN4eWT8
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09.30–22.00 น.
การเดินทาง : สะดวกสุดแนะนำนั่งรถบัส จาก นั่งสาย 312 จาก Hakata Bus Terminal ชั้น 1 นั่ง 7 ป้าย ประมาณ​ 25 นาที ลงป้าย Fukuoka Tower Minamiguchi

Yuzu-an Fukuoka Chiyo บุฟเฟ่ต์ชาบู เนื้อดีงาม มีซูชิ ของกินเล่นเพียบ ขนมอร่อย เริ่มต้นคนละ 2,948 เยน กินได้ 100 นาที

ตกเย็นใช้พลังงานในการรีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ไปเยอะ ก็ต้องหาอะไรเติมพลังแบบเต็มคาราเบลกันซักหน่อย เปิด Google ลองหาร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู สรุปมีร้านนึงน่าสนใจ Yuzu-an Fukuoka Chiyo คือจัดเต็มสุดๆ มีทั้งชาบู-สุกี้ ซูชิ ของทอด ของกินเล่น รวมของหวานเรียบร้อย เริ่มต้นคนละ 2,948 เยน ส่วนใครอยากได้ Softdrink แบบรีฟิลก็จ่ายเพิ่มอีก 1,390 เยน

ตัว 2,948 เยน จะเป็นบุฟเฟ่ต์เนื้อหมู ส่วนใครอยากกินเนื้อวากิว ให้เลือกแพค 3,608 เยน ส่วนตัวท็อปแพคเกจ 4,708 เยน สุดจะเป็นเนื้อวัวดำ คุโรเกะ แต่วันนั้นป้าเลือกแค่แพคกลาง แต่แค่นั้นก็อิ่มสุดๆ ละ เนื้อตัวแพคกลางก็โอเคเลยนะ เนื้อนุ่มๆ กินคู่ไข่ดิบคือฟิน เลือกน้ำซุปได้ 2 ซุป ซูชิโอเคเลย ปลาสดอยู่ กุ้งเทมปุระนี่ดีมาก

กินอิ่มจนแทบกลิ้ง ใครจะมาแนะนำจองมาก่อนนะ จองฟรี ไม่มีค่ามัดจำ กินเสร็จรูดด้วยบัตร Krungthai Travel Card จ่ายสบายเลยจ้า ไม่ต้องแตกพกเงินมาเยอะ รูดทีเดียวจบ เรทดีงาม

Yuzu-an Fukuoka Chiyo
จองโต๊ะ Online :
https://bit.ly/3BmUTT3
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/NsF3UK6cdUUTkEFS8
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11.00–23.00 น. (รอบสุดท้าย 21.00 น.)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Chiyo-Kenchōguchi ออกทางออกที่ 2 เดินประมาณ 10 นาที

Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA ไปช้อปปิ้งกันที่ห้างใหม่ล่าสุดของ Hakata แวะถ่ายรูปคู่กันดั้ม RX-93ffν Gundam ขนาดเท่าหุ่นจริง

ใกล้วันจะกลับ พารีวิวฟุกุโอกะ (Fukuoka) กันที่แลนด์มาร์คต่อไป แวะช้อปปิ้งกันที่ห้างใหม่ล่าสุด Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA ห้างใหญ่อลังการพร้อมแบรนด์สินค้าชั้นนำ โดยมีไฮไลท์คือ กันดั้มพาร์คเมืองฟุกุโอกะ (Gundam Park and Statue) พร้อมหุ่นกันดั้ม RX-93ffν ขนาดเท่าไซส์จริงอยู่หน้าห้างเลยจ้า สูงถึง 24.8 เมตร โดยตอนกลางคืน เค้าจะมีเปิดไฟโชว์ด้วย

โดยในศูนย์การค้า Mitsui Shopping Park LalaPort Fukuoka ซึ่งที่นี่เค้าจะแบ่งโซนรวมกันดั้มรุ่นต่างๆ มีทั้งรุ่นธรรมดาไปถึงรุ่นลิมิเต็ดด้วยจ้า อย่าง GUNDAM SIDE-F เป็นพื้นที่ร้านค้าที่ขายสินค้าจำหน่ายสินค้ากันดั้มทุกประเภท

ส่วนชั้นล่างก็จะเป็น Supermarket ไหนๆ มาช่วงนี้แล้วก็ต้องจัดสตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่นลูกโตๆ กินซะหน่อย 8 ลูก 1,058 เยน ก็ตกลูกละ 33 บาทไทยนะ 555 แอบแรง แต่ความอร่อยก็ดีงามเหลือเกิน หวานฉ่ำ หอมมากกก จ่ายด้วยบัตร Krungthai Travel Card อีกเช่นเคย

หลายๆ คนอาจจะชอบแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Uniqlo แต่ป้าขอแนะนำอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุณภาพดี นั่นคือ GU นั่นเอง ราคายิ่งดีงาม มีเซลล์เยอะมาก นี่ได้มาหลายชุดเลย คือแบบชุดละ 250 เงี้ย ไม่ซื้อได้ไง หนึ่งถุงใหญ่ๆ ที่ถือนี่แค่ 5,000 กว่าเยนเองแม่

อีกหนึ่งข้อดีเวลารูดด้วยบัตร Krungthai Travel Card นั่นก็คือ เวลารูดเสร็จเค้าจะมีข้อความส่งมาบอกว่าเป็นบันทึกเอาไว้ว่าในทริปนี้เราจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ หรือถ้ารูดแล้วมันเบิ้ล เราก็จะได้รู้ล่วงหน้าว่าเค้าคิดผิด

Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/KYM6HRZbPgnw1wCbA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00–21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถเมล์สาย 40 / 44 ไปลงป้าย Naka เดินประมาณ 2–5 นาที

ทีมแล็บฟอเรสต์ (TeamLab Forest) พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลที่ฟุกุโอกะสุดเจ๋ง สาย IG ต้องมา มุมถ่ายรูปสวยม้าก

ใครเป็นแฟน Teamlab ห้ามพลาด!! มา รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ทั้งที ต้องมากันที่ ทีมแล็บฟอเรสต์ (TeamLab Forest) กันซักหน่อย โดยจะอยู่ที่ชั้น 5 อาคาร BOSS E・ZO FUKUOKA หลังจากที่เคยไปที่โอไดบะกันมาแล้ว แวะมาดูฝั่งฟุกุโอกะกันบ้าง ที่นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลโดยธีมของที่น่าจะเรียกว่า “ป่าแห่งการรวบรวม” และ “ป่าแห่งการเคลื่อนไหว” เป็นงาน Interactive Art สุดคูล

ใครเป็นแฟน Teamlab อย่าลืมตามไปเก็บให้ครบนะ ปกติค่าเข้าคนละ 2,200 เยน แนะนำให้ซื้อผ่าน Klook ล่วงหน้าไปจะถูกกว่าเยอะเหลือคนละ 485 เอง!!

ซื้อบัตรเข้าชม TeamLab Forestได้ที่นี่ >> https://bit.ly/TeamlabFukuoka

โซนที่หนึ่ง จะเป็นเหมือนจำลองถึงป่าที่มีสัตว์อยู่มากมาย โดยในโซน 1 เค้าจะให้เราโหลด App มาก่อน โซนนี้เราสามารถเปิด App จากมือถือเพื่อยิงธนูหรือหว่านแหจับสัตว์ที่อยู่ในห้องนี้มาเก็บเป็นคอลเล็คชั่นได้ถึง 59 ตัว มีทั้งสัตว์ป่า และสัตว์ทะเลให้เราจับได้ ยืนจับอยู่นานเพลินม้ากกก ใครพาลูกพาหลานมารับรองสนุกเลย

ส่วนโซนที่สอง จะเป็นเหมือนห้องที่เต็มไปด้วยผีเสื้อ ผีเสื้อเค้าจะตามเวลาเราเอามือไปสัมผัสผนัง หรือเวลาเดิน เวลานั่งต่างๆ

พอมาโซนที่ 3 อันนี้เราชอบมาก มันจะเป็นโซนจะเป็นเหมือนห้องที่เห็ดหลากสี เด้งดึ๋งเราจะเดินเหยียบเห็ดนุ่มๆ ไปข้างหน้าเรื่อยๆ เหมือนมาริโอ้เลยจ้า พอเข้าสู่โซน 4 อันนี้จะเป็นที่เดินยวบๆ ไปมาหน่อย

พอเดินไปจนสุด ก็จะเป็นโซน 5 มีทางเดินข้ามฝั่งให้เราเลือกเดิน 3 อัน ก็จะมีตั้งแต่อันที่ง่ายไปยาก เวลาข้ามไปแล้วห้ามหยุด ให้เลือกแล้วเดินข้ามไปเลย

จนมาถึงโซนที่ 6 ข้างนอกจะเป็นโซนป่ากว้างๆ แต่ความเก๋คือจะมีอุโมงค์กระจกสามมิติที่เชื่อมระหว่างโซนที่ 6 กับโซนที่ 7 ตรงนี้คือปังม้ากแม่ เค้าจะมีเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ

โซนที่ 7 โซนสุดท้ายจะเป็นลูกบอลเยอะๆ มีลมเป่าวนไปมาล้อมรอบด้วยห้องกระจก เป็นอันจบการรีวิว ทีมแล็บฟอเรสต์ (TeamLab Forest)

ทีมแล็บฟอเรสต์ (TeamLab Forest) อยู่บนชั้น 5 แหล่งเอ็นเตอร์เทน BOSS E・ZO
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/KYM6HRZbPgnw1wCbA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน วันธรรมดา 11:00–20:00 น., ส.-อา.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00–20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Tojinmachi Station เดินต่อประมาณ 15 นาที

ท้าลมหนาวเดินชมไฟ Winter Illumination ตลาดคริสมาสต์ที่หน้าสถานี Hakata ในช่วงหน้าหนาวกัน

อีกหนึ่งจุด รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ถ่ายรูปที่สวยปังและไปง่ายที่สุด นี่ก็หน้าสถานี Hakata นี่เอง ในช่วงสิ้นปีแบบนี้เค้าก็จะเริ่มประดับไฟ Winter Illumination มีต้นคริสมาสต์ มีประดับไฟตามต้นไม้ต่างๆ แล้วเค้าจะมีพวกตลาดคริสมาสต์มีของขายด้วยจ้า ใครชอบหาอะไรกินท้าลมหนาวนี่เย็นๆ เจอกันได้เลย

ด้วยที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 12 ปีของเทศกาลฤดูหนาวในฮากาตะ ติดไฟ LED กว่า 800,000 ดวง เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับรอบๆ สถานีฮากาตะ ยังไม่พอบนชั้นสองของ JR Hakata City มีติดไฟ LED บนผนังเปลี่ยนลายสลับไปมา โดยไฟเค้าจะเปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเที่ยงคืนเลยนะ

Winter Illumination ที่ Hakata Station
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/pt5NgDJ9zcxXF32L7
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 18.00–24.00 น.

โรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata) ใกล้สถานี Hakata Station เดินได้แค่ 5 นาที มีระบบเช็คอินได้ด้วยตัวเอง ฟรีอาหารเช้า เริ่มต้นแค่คืนละไม่ถึง 2,000 บาท

ทริป รีวิว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) รอบนี้เลือกนอนกันที่ โรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata) ข้อดีคือเดินทางสะดวกมาก อยู่ห่างสถานี Hakata แค่ 5–10 นาที ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวไหนก็ง่ายทั้งรถไฟ JR / รถไฟใต้ดิน และรถบัส แค่ข้ามถนนก็เจอแฟมิลี่มาร์ทและร้านอาหารอยู่รอบๆ แถมราคาดีงามเริ่มต้นคืนละไม่ถึง 2,000 บาท รวมอาหารเช้า ฟรี Wifi มี Netflix ดู Youtube ได้!!

จองโรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata) ที่นี่
>>
https://agoda.tp.st/x7FUmz7b

สำหรับตัว Lobby นั้นจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ความสะดวกคือเราสามารถมาเช็คอินล่วงหน้าได้เลย ในกรณีที่มาถึงก่อน ก็สามารถเช็คอินที่ตู้เช็คอินอัตโนมัติ แล้วเค้าจะมี Locker ให้ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้ แต่ก็จะมีว่าสำหรับคนที่กะว่าเช็คเอาท์แล้วอยากฝากกระเป๋าเอาไว้ก่อน นี่ทำไม่ได้นะจ้ะ เพราะเค้าไม่มีที่รับฝากเลยจ้า

อีกหนึ่งข้อดีก็คือมีพวกชุดนอน แปรงสีฟัน ที่โกนหนวด หวี น้ำดื่ม ฯลฯ ต่างๆ ให้หยิบใช้ในแต่ละวัน อย่างน้ำดื่มนี่มีวางไว้ให้เป็นขวดๆ หยิบได้ฟรีทั้งวันนะ

นอกจากนั้นใครที่อยู่ระยะยาว หรือเอาเสื้อผ้ามาไม่เยอะ เค้าก็มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งในห้องนี้ยังมีไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำแข็งให้บริการฟรี รวมไปถึงตู้กดน้ำหยอดเหรียญให้ใช้บริการอีกด้วยจ้า

สำหรับห้องนอนต้องบอกว่า มีการจัด Space ค่อนข้างดี แม้จะกว้าง 14 ตรม. แต่ก็ดูไม่เล็กเกิน เพดานมียกสูงเลยทำให้ดูโปร่ง อย่างรอบนี้เรานอนห้อง (Double Room Standard) เตียงคือดีม้ากกก นอนสบาย ทั้งหมอน ผ้านวมดีสุด / ทีวีก็ดีเป็นระบบใหม่ที่ไม่ได้มีแค่ช่องดาวเทียม สามารถกดดูได้ทั้ง Youtube และ Netflix หัวเตียงมีปลั๊กแบบ USB เสียบชาร์ทมือถือได้

ส่วนเตียงนอนเค้าก็ยกสูงขึ้น เราสามารถเก็บกระเป๋าขนาด 28 นิ้วไว้ใต้เตียงได้ ทำให้ประหยัดเนื้อที่ไปเลย มีโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ เอาไว้นั่งทำงานดูวิว หรือนั่งกินข้าว มีเครื่องฟอกอากาศ แล้วก็มีโซนอ่างล่างหน้าให้ มีไดรฟ์เป่าผมให้ อีกอันที่ชอบคือ เค้าแยกห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้ด้วย ส้วมเป็นแบบอัตโนมัติ ดีงามสุดๆ

ส่วนอีกหนึ่งข้อดีของ โรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata) คือรวมอาหารเช้าแล้ว โดยแค่แจ้งชื่อห้องกับพนักงานที่ร้านเบอร์เกอร์ที่ชั้น 1 สามารถทานได้ถึง 11 โมง ตัวเมนูก็มีให้เราเลือก 5–6 เมนู โอเคเลยนะ ใครมองหาโรงแรมราคาไม่แพงแถมอยู่ใกล้สถานี Hakata ป้าแนะนำเลยจ้า

โรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata)
プリンス スマート イン 博多
แผนที่ :
https://goo.gl/maps/pt5NgDJ9zcxXF32L7
จองโรงแรมพรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ (Prince Smart Inn Hakata) ที่นี่
>>
https://agoda.tp.st/x7FUmz7b

จองโรงแรมที่ Fukuoka ราคาพิเศษ ได้ที่นี่! https://agoda.tp.st/k7DTOvVp

--

--

วาไรตี้ ชีวิตป้า..ช้อปปิ้ง..กิน..เที่ยว คลิกเดียว..ครบหมด!!