รีวิวเที่ยวเกาหลี (Korea) 9 พิกัดเด็ด พาแม่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โซล (Seoul)

Aumjumma & The Gang
Aumjumma
Published in
7 min readAug 11, 2022

--

ไหนๆ เดือนนี้มีวันแม่ แถมอีกไม่กี่เดือนก็เข้าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นี่คือช่วงพีคของการไปเที่ยวเกาหลีเลย ป้าเลยขอรวมฮิตจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วโซล ไม่ว่าแม่ลูกคู่ไหนที่มือใหม่ก็นั่งรถไฟใต้ดินเที่ยวตามได้ไม่ต้องกลัวหลง ปักหมุด 9 ที่เที่ยวในโซลช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ห้ามพลาด ใครที่มีแพลนเที่ยวแล้วชอบที่ตรงไหน จับใส่เพิ่มในแพลนได้ตามสบาย

พาแม่เที่ยวเกาหลีฟรีๆ 4 Happy for me & mom แฮปปี้ 4 ต่อ สุขทั้งเลดี้ สุขทั้งหม่ามี้ แค่ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ TIPLADY ชิงแพ็กเกจเที่ยวโซลฟรีไปเลย

ก่อนจะไปดูจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในโซลสุดปัง ป้าขอแนะนำกิจกรรมดีๆ ที่คุณอาจจะได้ไปเกาหลีกันฟรีๆ ไปเลย กับกิจกรรม 4 Happy for me & mom แฮปปี้ 4 ต่อ สุขทั้งเลดี้ สุขทั้งหม่ามี้ สายเกาอย่ารอช้ารีบไปจัดกันด่วนเลยยย

แค่ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 TIP Lady ได้สิทธิ์ร่วมกิจกรรมไปเกาหลี แบบ Happy 4 ต่อ
>> ต่อที่ 1 Happy Price : รับส่วนลดสูงสุด 15% (ลูกค้าใหม่ กรอกโค้ด LadyAum ลดทันที 10% + รถติดกล้อง ลดเพิ่มอีก 5%)
>> ต่อที่ 2 Happy Trip : รับ บัตรเติมน้ำมัน PTT สูงสุด 4,000 บาท ขับรถพาแม่ไปเที่ยวกัน
>> ต่อที่ 3 Happy Pay : ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
>> ต่อที่ 4 Happy Moment “ภาพสุดปัง…ลุ้นซารังเฮโย” รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมชิงแพ็กเกจเที่ยวโซล เกาหลีใต้ จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 2 ท่าน มูลค่ารวมสูงสุด 150,000 บาทไปเลยย

ร่วมกิจกรรมและรับโปรโมชั่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65–30 ก.ย. 65 เท่านั้นนะจ้ะ
📌 พิกัด : เข้าไปซื้อประกันที่ TIPINSURE.COM หรือโทร 1736 กด 8
👉 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3bHqC7M

* เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่กรมธรรม์ประกันภัยกำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการทำประกันภัยทุกครั้ง

* รับประกันภัยโดย บมจ.ทิพยประกันภัย เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด รายการส่งเสริมการขายดำเนินการโดย อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์

ถามว่าทำประกันกับ Tip Lady แล้วดียังไง ก็ต้องบอกว่าความคุ้มครองของเค้า นี่ทำมาเอาใจผู้หญิงอย่างเราเลย อย่างเรื่องเบสิคก็คือ เค้าคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ไมว่ากรณีสูญหาย ไฟไหม้หรือน้ำท่วม และยังคุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและบุคคลภายนอกด้วย ถือว่าตอบโจทย์สุภาพสตรี ผู้หญิงแบบพวกเราที่ต้องการความปลอดภัยและการดูแลเป็นพิเศษ ตลอด 24 ชม.

ยังไม่พอหากเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเสียโฉม ต้องทำศัลยกรรม เค้าก็ยังคุ้มครองค่าศัลยกรรมจากอุบัติเหตุ วงเงิน 1 ล้านบาท ยังไม่พอยังดูแลทรัพย์สิน ไม่ว่ากระเป๋าแบรนด์เนม โทรศัพท์มือถือ เวลาเสียหายจากอุบัติเหตุหรือโดนขโมย จ่ายตามจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท/ครั้ง นี่เค้าดูแลเรายิ่งกว่าคนรักซะอีก

สุดท้ายดูแลเราอย่างดีแล้วยังมีสิทธิพิเศษให้เราด้วยอีกจ้า เป็นบริการเสริมเฉพาะคนขับที่เป็นผู้หญิงอย่างเราเท่านั้น ไม่ว่า TIP Lady Club หรือ Privileged Member ที่รวบรวมสิทธิพิเศษจากโรงแรมที่พัก ฟิตเนส ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานเสริมความงาม และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆมากมาย โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook TIP Lady

Kyung Hee University มหาลัยเอกชนชื่อดังของเกาหลีที่เค้าบอกว่าเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี

เที่ยวเกาหลีแต่นึกว่าอยู่ยุโรป!! Kyung Hee University มหาลัยเอกชนชื่อดังของเกาหลีที่เค้าบอกว่าเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี ตัวตึกนี่อลังการแนวโกธิค และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสวยในการชมซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี แถมคนดังๆ ก็เคยมาเรียนที่นี่เพียบ เช่น คุณลุงกงยู / คยูฮยอน Super Junior / ชางมิน TVXQ / จียง Big Bang ฯลฯ ก็จบจากที่นี่ทั้งนั้น

การเดินทางมา Kyung Hee University ก็ไม่ยากมาก แม้ว่าจะแอบอยู่ไกลนิดนึง แต่เชื่อป้าเถอะ ความสวยงามมันรอเราอยู่ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Hoegi เดินมาลง Exit 1 ลงมาจากสถานีรถไฟก็นั่งรถ shuttle bus เขียวๆ เลย ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาทีก็จะมาจอดที่ตรงมหาลัยค่ะ ใช้ T-Money แตะจ่ายบนรถได้เลยนะ

อาคาร Grand Peace Hall เป็นอาหารที่เป็นเหมือน Hall ที่จุคนได้ 4000+ คน เอาไว้จัดโชว์การแสดงต่างๆ ซึ่งจะบอกว่าหน้าตาเหมือนโบสท์ Notre Dame de Paris ที่ฝรั่งเศสมาก ตึกนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยถ้ามา ถ่ายไปหลอกเพื่อนว่าอยู่ยุโรปก็เชื่อนะแบบนี้ 555

ตึก University Administration Building ตัวตึกสวยงาม มีเสาโรมันอลังการมาก นี่ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนหลอกว่าอยู่ยุโรปนางก็เชื่อนะเนี่ย เท่าที่ดูตึกของ Kyung Hee University จะเน้นความยิ่งใหญ่ อลังการ สมกับเป็นมหาลัยเอกชน

ระหว่างทางเดินก็เจอมุมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ แสงส่องลงมากระทบกับใบเมเปิ้ลพอดี แม้ว่าจะเข้าช่วงท้ายๆ ของใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่ Kyung Hee University ก็ยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเยอะอยู่นะ

ส่วนเขยิบไปอีกนิด Central Library ตรงนี้ก็จะเป็นดงต้นไม้เปลี่ยนสีเลย ส่วนมากเป็นต้นเมเปิ้ลมีทั้ง สีเหลือง สีแดง สีส้มสลับกันไป แถมต้นไม่ได้สูงมาก ใครเที่ยวเกาหลีแล้วชอบถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ต้องไปไกลมาที่นี่เอาอยู่ค่ะ

Kyung Hee University
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Hoegi เดินมาลง Exit 1 ลงมาจากสถานีรถไฟก็นั่งรถ shuttle bus เขียวๆ เลย ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาที

Ewha Womans University ตะลุยตลาด Edae แหล่งช้อปปิ้งสุดคุ้ม มหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก

Ewha Womans University เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก มาเที่วเกาหลีแล้วห้ามพลาดมาถ่ายกับตึกนี้ Welch -Ryang Auditorium ที่นี่ก็จะเอาไว้แสดงโชว์พวกงานดนตรี งานคอนเสิร์ตบ้าง ตัวตึกมันสวยตรงเป็นตึกแบบโกธิคมีใบไม้เปลี่ยนสีเลื้อยเต็มตึกเลย สวยมาก ขนาดนักศึกษาของที่นี่ป้าเห็นเค้าก็ยังมาถ่ายกันเลยนะ

ส่วนตึกนี้เรียกว่า Ewha Campus Complex (ECC) ดีไซน์เป็นตึกที่เหมือนเจาะลงมาใต้ดิน มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยตั้งแต่ชั้น B1-B3 จะเป็นชั้นที่เป็นห้องเรียนและสำนักงานต่างๆ ของมหาลัย ใครจะเดินดุ่มๆ เข้าไปไม่ได้นะจ้ะ อย่างตอนแรกอีคุณฝาชีนางจะเข้าไปถ่าย ปรากฏว่าห้ามจ้า เค้าอนุญาติให้เฉพาะนักศึกษาหรือบุคลากรที่มีบัตรเข้าได้เท่านั้น

ใครมาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยสุดหลังไม่แพ้ที่อื่นอยู่น้า

และแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วนั่งปล่อยชิวจนพระอาทิตย์ลาลับ ออกจากโซนมหาลัยก็นังมีโซนช้อปปิ้งอีแดที่รอเราไปช้อปอยู่ด้วยนะจ้ะ สาวๆ ต้องกรี๊ดแน่ ของขายถูกๆ เยอะ เสื้อผ้าผู้หญิงสวยๆ นี่ถูกมาก

Ewha Womans University
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Ewha Womans University Station ออก Exit 2 หรือ 3 เดินตรงไปจากสถานีเพียงแค่ 5 นาที

ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake) มาเที่ยวฤดูไหนก็สวย มีทั้งสวนสาธารณะ สวนสนุกและ Seoul Sky Tower

หนึ่งในแลนด์มาร์คที่แนะนำเวลาเที่ยวโซล ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake) ทะเลสาบขนาดใหญ่ของกรุงโซล ไม่ว่าจะคู่รัก ครอบครัว มาเที่ยวที่เดียวครบ เพราะมีสวนสาธารณะล้อมรอบทะเลสาบให้คนได้มาพักผ่อนและออกกำลังกาย แถมยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกลอตเต้ เวิลด์ สวนสนุกที่มีชื่อเสียงของโซล ที่สำคัญยังเป็นจุดชมดอกซากุระเกาหลี และใบไม้เปลี่ยนสีสุดฮิตอีกด้วย สวยแบบตะโกน

ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake)
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาลงสถานี Jamsil ทางออก 2 หรือ 3

Seoul Forest Park สวนป่าใจกลางกรุงโซล ไฮไลท์อยู่ที่ดงต้นแปะก๊วยที่สวยเหมือนพรมสีเหลือง

หนึ่งในสวนสาธารณะที่สวยสุดของโซลช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้องยกให้ Seoul Forest Park ด้วยความใหญ่อลังการเป็นอันดับสามของเกาหลี เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย เวลาพีคที่นี่จะช่วงซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสีก็ได้ภาพสวยแน่นอน เพราะมีต้นไม้พร้อมใจมากกว่า 400,000 ต้น สวยตาแตกมากๆ

นอกจากนั้นก็ยังเดินทางง่าย นั่งรถไฟใต้ดินถึง เดินไม่เยอะมาก ถ้าใครชอบความเหลืองของดงต้นแปะก๊วย มาที่นี่ไม่มีผิดหวังได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน ปีที่ป้าไป แม่ตอนนั้นใบจะเริ่มร่วงไปแล้ว แต่ได้ความสวยงามอีกแบบคือ พื้นนี่เหมือนปูด้วยพรมสีเหลืองเลยแม่ ใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อย่าลืมเอาที่นี่ลงแพลนด้วย

ป.ล. อะไรๆ ก็สวย เสียอย่างเดียว กลิ่นลูกแปะก๊วยนี่ทำเสียมู้ดโรแมนติกไปบ้าง 55

Seoul Forest Park (서울숲)
การเดินทาง : นั่ง Subway สายสีเหลืองมาลงที่สถานี Seoul Forest ออกทางออกที่ 3 ได้เลยเดินเข้ามาลึกๆ หน่อย จะเจอดงต้นแปะก๊วยเยอะๆ

มุมใบไม้เปลี่ยนสีลับๆใจกลางโซล มหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน (Sungkyunkwan University) ต้นแปะก๊วยโบราณอายุกว่าร้อยปี

สวยตาแตก มุมใบไม้เปลี่ยนสีลับๆใจกลางโซลใครจะไปคิดว่าใน มหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน (Sungkyunkwan University) จะสวยเบอร์นี้ ยังกับภาพวาดเลย ด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ เค้าก็ยังคงรักษาตึกโบราณเกาหลีเอาไว้ล้อมรอบด้วยต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิ้ลอายุเป็น 100 ปี เวลาพีคนี่คือสวยม้ากกก เหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคโบราณเลย แถมเข้าฟรีด้วย

มหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน (Sungkyunkwan University)
การเดินทาง : นั่ง Subway สาย 4 มาลงที่สถานีเยวา (Hyehwa) ทางออกหมายเลข 4 จะมีป้ายมหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน เดินเข้าไป 500 เมตร

เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วภูเขาที่สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Park) และขึ้นไปคล้องกุญแจที่หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คเมืองโซล ไม่ว่ามือใหม่หรือสาย Advance ก็ชอบไปกัน นอกจากจะไปชมวิวสวยๆ มุมสูงของกรุงโซลกันที่ หอคอยเอ็นโซล แล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Park) ที่นี่ก็พีคไม่แพ้กันเพราะต้นไม้ทั้งภูเขานี่ไล่เปลี่ยนสีแดง-เหลืองกันสวยม้าก ถ้าใครมีแฟนอย่าลืมแวะมาคล้องกุญแจรักกันนะเพราะมีความเชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่จะรักกันไปตลอดกาล แต่ถ้าใครไม่มีแฟนแค่ขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของกรุงโซลแบบ 360 องศาก็ฟินแล้ว

N Seoul Tower
เวลาเปิดปิด : N Seoul Tower และ เคเบิ้ลคาร์ 10:00–23:00 น.
ค่าเข้าชม N Seoul Tower : ผู้ใหญ่ 9,000 วอน / นักเรียนและเด็ก 7,000 วอน

การเดินทางรถเมล์ : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Myeongdong Station และใช้ทางออกที่ 3 แล้วขั้นรถบัสเบอร์ 5 (Namsan Circular Shuttle Bus №05) ที่สถานีเมียงดง ประตู 3 ได้เลย

การเดินทางโดย Cable Car : จากสถานี Myeong-dong Station วออกที่ทางออก 2 หรือ 3 จากนั้นให้เดินไปต่อด้วยกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) ที่ Palgakjeong เดินประมาณ 10 นาที

ค่ากระเช้าไป-กลับ ผู้ใหญ่ 8,000 วอน / เด็ก 5,000 วอน

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

พระราชวังเคียงบกกุง แลนด์มาร์กสำคัญที่เที่ยวโซลของเกาหลีที่เดินทางมาได้ง่ายมาก ด้วยรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี Gyeongbokgung Palace Station และใช้ทางออกที่ 5 พระราชวังเคียงบกกุงสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 ในอดีตภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆ มากกว่า 200 หลัง แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น

แนะนำไหนๆ มาแล้ว ควรเช่าฮันบกมาใส่ถ่ายรูปกัน ข้อดีคือใส่ฮันบกไม่เสียค่าเข้านะจ้ะ ไปชมความงามของพระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon) ศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong) พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อซึมซับความเป็นเกาหลีที่แท้ทรูได้

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
เวลาทำการ :
มกราคม-กุมภาพันธ์09:00–17:00 น. / มีนาคม — พฤษภาคม 09:00–18:00 น. / มิถุนายน — สิงหาคม 09:00–18:30 น. / กันยายน — ตุลาคม 09:00–18:00 น. / พฤศจิกายน — ธันวาคม 09:00–17:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)

ค่าเข้า :ผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป) 3,000 วอน/เด็ก (7–18 ปี)1,500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าฟรี

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ทางออก 5 จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตร

ไปเดินเล่นที่พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace) และถนนจองดองกิล ขึ้นไปถ่ายรูปมุมสูงแบบไม่ต้องใช้โดรนที่ หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory)

อีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในโซลที่สวยอลังและไปง่ายสุด!! คือ พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)ใบไม้เปลี่ยนสีคือสวยตาแตกมาก ข้างๆมีถนนจองดองกิล ที่คนเกาหลีบอกว่าโรแมนติกสุดๆ ตัวถนนจะโค้งเลียบกำแพงวัง น่าชวนอปป้ามาเดินจับมือที่สุด

ใครอยากถ่ายภาพมุมสูง แต่ไม่มีโดรนก็ทำได้ ที่หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory) จะอยู่ชั้น 13 ที่อาคารศาลากลางกรุงโซล (Seoul City Hall Seosomun building) มุมถ่ายจะอยู่ตรงร้านกาแฟ จะมีมุมกระจกให้ถ่ายมุมสูงของวังได้จ้า จะถ่ายมุมเผลอหรือซูมถ่ายวังก็เริ่ด ไหนๆ เข้าฟรีก็อย่าลืมอุดหนุนกาแฟเค้าด้วยน้า

พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1, 2 ลงที่สถานี City Hall Station ใช้ทางออกที่ 1

หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory)
เวลาเปิดปิด : 09:00–18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1, 2 ลงที่ City Hall Station ใช้ทางออกที่ 1

จุดชมวิว : ตึกนี้อยู่ข้างๆถนนเลียบวัง อยู่บนชั้น 13 ของอาคาร the Seoul City Hall Seosomun Building

สวนฮานึล (Haneul Park) ทุ่งดอกหญ้าสีทองที่โคตรชิคฮิปสเตอร์ เห็นมุมของเมืองโซลแบบ 360 องศา

เดินงงในดงดอกหญ้า!! หนึ่งในสวนดงดอกหญ้าที่สวยที่สุดนั่นคือ สวนฮานึล (Haneul Park) ซึ่งตั้งอยู่ใน World Cup Park โดยสวนฮานึลจะตั้งอยู่ด้านบนเนินเขา จะนั่งรถของสวนขึ้นไปหรือใครจะบริหารขาก็เดินขึ้นไปก็ตามแต่สะดวก

แต่แนะนำให้ขึ้นรถไปดีกว่า ส่วนวิธีขึ้นเขาใครแข็งแรง อยากเดินจับมือพิสูจน์รักก็เดินขึ้นบันไดโลด เพื่อนป้าบอกประมาณเกือบ 300 ขั้น แต่ถ้าใครเน้นสั้น กระชับ ประหยัดแรง ก็เดินไปซื้อตั๋วรถกอล์ฟ ไป-กลับ คนละ 3000 วอน ตกไม่ถึง 100 บาทสบายๆ

พื้นที่คือใหญ่มาก ตอนแรกยังคิด มาเดินถ่ายรูปกับดอกหญ้าเนี่ยนะ บ้านเราก็มี แต่ไม่ใช่จ้า ข้างบนคือต้นดอกหญ้าสูงเท่าเรา คนเกาหลีจะชอบมาถ่ายรูปมันจะละมุนๆ นอกจากนั้นยังมีหลายโซนสามารถเดินเล่นถ่ายรูปกับดอกหญ้าสวยๆ ที่พลิ้วไสวไปตามสายลมได้อย่างเต็มที่นอกจากดงดอกหญ้าแล้วยังมีสวนดอกไม้สวยๆ ด้วยนะ

ใครอยากได้รูปแสงสวยๆ ควรมาเช้าๆ หรือไม่ก็รอแสงเย็นซัก 4–5 โมงเลย จะได้ฟีลลิ่งแสงส้มละมุน แต่ถ้ามาเที่ยงๆ อาจจะต้องหามุมถ่ายนิดนึงเพราะแสงอาทิตย์จะตรงหัว ถ่ายรูปหน้าจะเป็นเงาๆ ดังนั้นต้องเผื่อเวลานิดนึงเนาะ ขนาดวันที่ป้ามานี่รอต่อคิวขึ้นรถกอล์ฟประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง แนะนำให้คนนึงไปซื้อตั๋วอีกคนไปต่อคิวรอรถกอล์ฟจะได้ประหยัดเวลาจ้ะ

สวนฮานึล (Haneul Park)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล ลง world cup stadium station ทางออก 1 เดินตามอาจุมม่าไปโล้ด ประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ : ทุกวัน 09:00–18:00 น.
ค่ารถ : เที่ยวละ 1,500 วอน

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง ลองดูได้เลย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 TIP Lady ให้มากกว่าประกันภัยชั้น 1

สามารถเช็คเบี้ยและซื้อประกันออนไลน์ง่ายๆผ่าน www.tipinsure.com ได้เลย !! เช็คเบี้ยและซื้อประกันออนไลน์ กรอกโค้ด LADYAUM ลูกค้าใหม่ลด 10% ไปเลยจ้า

แล้วอย่าลืมมาร่วมกิจกรรม “4 Happy for Me & Mom สุขทั้งเลดี้…สุขทั้งหม่ามี้” กันต่อด้วยน้า ร่วมกิจกรรมและรับโปรโมชั่น ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65–30 ก.ย. 65

--

--

วาไรตี้ ชีวิตป้า..ช้อปปิ้ง..กิน..เที่ยว คลิกเดียว..ครบหมด!!