รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) หางโจว (Hangzhou) 7 วัน 6 คืน (อัพเดท 2024)
ฉลองประเทศจีนฟรีวีซ่า ทริปนี้อัมจะพาเที่ยวกันที่ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เมืองที่เจริญที่สุดของจีนสวยฟีลยุโรป ที่เที่ยวเริ่ด ช้อปปิ้งสนุก ถ่ายรูปสุดฟิน ทริปเดียวเที่ยว 2 เมือง 7 วัน 6 คืน และพานั่งรถไฟความเร็วสูงไปยัง หางโจว (Hangzhou) เมืองสุดชิว ที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจากเซี่ยงไฮ้แค่ 60 นาทีเท่านั้น รวม 20 พิกัดกิน-เที่ยว(อัพเดทปี 2024) รอบนี้บินกับ AirAsia คือดีมาก คุ้มค่าราคาประหยัด แล้วเค้ามีเที่ยวบินจีนมากถึง 12 เมือง ใครกำลังแพลนเที่ยวตามอัมไปเที่ยวกันเลยค่า
ไปจีนกับแอร์เอเชีย เที่ยวจีนฟีลยุโรปกันที่เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) บินได้คล่องตัวมากกว่าเคยด้วย Premium Flex แพลนไม่มีสะดุด เที่ยวคุ้มคุณภาพครบ
รอบนี้เราจะไปเที่ยวจีนฟีลยุโรปกันที่ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) พอจีนฟรีวีซ่าปุ๊ป อัมก็รีบทำแพลนจองตั๋วกันเลยจ้า สำหรับสายการบินก็ขอยกให้อันดับหนึ่งในใจอย่าง AirAsia เลยจ้า รูทจีนเค้าเยอะมาก บินตรงสู่จีนมากที่สุด 12 ปลายทางเลยแกร
บินตรงจากกรุงเทพฯ — สุวรรณภูมิ (BKK) เซี่ยงไฮ้ — ผู่ตง (PVG) สูงสุดสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน (จ,อ,พ,พฤ,ส,อ) เครื่องใหญ่นั่งสบาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง บินดึกถึงเช้า เที่ยวได้เต็มวันไปเลย
รอบนี้อัมกดซื้อ Premium flex พร้อมตอนจองตั๋วเลย แพคเกจสุดคุ้มแถมสะดวกมาก บินได้คล่องตัวกว่าที่เคย เริ่ดตั้งแต่ก่อนบิน ได้เช็กอินขึ้นเครื่องและลงเครื่องก่อนใคร เพราะเค้ามีเคาท์เตอร์เช็คอินพิเศษ Red Carpet ไม่ต้องต่อคิวยาวๆ ได้เลยจ้า แถมมีน้ำหนักกระเป๋า 20kg ถูกใจสายช้อป สายขนพร๊อพไปเที่ยวด้วย ตอนลงก็รับกระเป๋าก่อนใคร Xpress Baggage ได้กระเป๋าไวสุดๆ นอกจากนั้นยังมี การประกันภัย Tune Protect2 คุ้มครองการล่าช้าของเที่ยวบินตั้งแต่ 1 ชั่วโงขึ้นไป และคุ้มครองการล่าช้าของสัมภาระ และยังได้ คะแนน airasia points 2 เท่าไปเลยจ้า!!
ที่สำคัญยังตอบโจทย์สำหรับคนอยากพักผ่อน หรือต้องการขึ้นเครื่องไปก่อน เพราะเรายังได้เลือกที่นั่งที่ชอบ หรือ Hot Seat ด้วยนะ (Hot Seat ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการ) ใครชอบที่นั่งสบายๆ ยืดขาได้ยาวๆ นี่จัดแถว 1 ไปโล้ดดด
ปิดท้ายด้วยยังฟินกับอาหารอร่อยบนเครื่องได้ด้วย รอบนี้สั่งลาซานญ่าไก่มาอร่อยมาก เครื่องแน่นเต็มคำ กินอิ่มนอนหลับพิเศษกว่าใครแบบนี้ ใครแพลนทริปอยู่จอง Premium Flex ได้เลยที่ www.airasia.com และ AirAsia MOVE ได้เลยจ้า
ทำการบ้านก่อนไป สิ่งควรรู้ก่อนไปเที่ยวประเทศจีน!! (อัพเดท 2024)
เที่ยวจีนตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว โดยเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขสำหรับประเทศไทยมีสิทธิ์เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังประเทศจีนนาน 30 วัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ และกำหนดด้วยว่า ระยะเวลาพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน โดยภายในช่วงเวลา 180 วัน สามารถพำนักรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วันเท่านั้น มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้
โหลด App Alipay + Wechat และพกเงินสดไว้แบงค์เล็ก-ใหญ่ติดตัวไว้ด้วยดีที่สุด! แม้จะเป็นประเทศจีนจะเป็นตัวแม่แห่ง Cashless Society จะจ่ายเงินที่ไหนก็ต้องผ่าน App เท่านั้น สำหรับ 2 แอพที่แนะนำเลยคือ Alipay และ Wechat ควรทำให้เรียบร้อยจากเมืองไทยไปเลยนะ โดยหลักๆ Alipay นี่จะเอาไว้จ่ายทุกอย่าง ส่วน Wechat หน้าที่หลักคือ จะเอาไว้ใช้คุยกับคนจีน ติดต่อโรงแรม แล้วแอพคือเทพมาก พิมพ์ไทยคุยได้เลย เวลาเค้าพิมพ์มากด Translate แปลได้เลยอัตโนมัติ และอีกอย่างที่สำคัญคือการเรียก Taxi ก็สามารถเรียกใน Alipay ได้เลยนะ สะดวกมาก
หลังจากไปจีนมา 3 รอบแล้ว เจ้า Alipay นี่มันดันผูกบัตรเครดิตหรือ Travel Card บางใบไม่ได้ จะมีที่รอดก็คือ Youtrip นี่แหละ แต่ๆๆ แม้จะผูกบัตรรอด เคยเจอร้านบางร้าน Taxi บางคันแม้จะจ่ายด้วย Alipay ดันจ่ายไม่ได้ ดังนั้นควรแลกเงินหยวนของจีนพกติดตัวไปด้วยนะ ควรมีทั้งแบงค์เล็กแบงค์ใหญ่ เพราะสุดท้ายที่เคยเจอกับ Taxi คือพอ Scan จ่ายไม่ได้ พี่แกก็ไม่มีเงินสดที่จะทอนด้วย ดังนั้นสำคัญเลยนะ
สำหรับคนที่ผูก Travel Card ไม่ผ่าน ตอนนี้สะดวกยิ่งขึ้น จ่ายผ่าน App True Money ของไทยได้เลยจ้า แสกนง่ายเหมือนอยู่ที่ไทย วิธีการก็ง่ายๆ เข้าไปทรูมันนี่เลือกตรง Alipay + Pay oversea จ่ายทันที ไม่มี fee ไม่ชาร์จ
ผู้นำทางที่ดีที่สุดสำหรับคนใช้ iOS ขอยกให้ Apple Maps ส่วนใครใช้ Andriod ควรใช้ Baidu Map โดยเจ้า Apple Maps เนี่ย ฉลาดมาก ซึ่งที่จีนใช้ได้ บอกละเอียด ว่าขึ้นรถที่สถานีไหน ลงที่สถานีไหน ที่สำคัญเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเรื่องภาษา แล้วเวลากดดูแต่ละสถานที่เค้าจะดึงข้อมูลจาก Dianping หรือรีวิวใน Trip.com มาเพื่อให้เราเห็นภาพรวมก่อนที่จะเดินทางได้ด้วย ส่วนใครไม่มีก็แนะนำให้โหลด Baidu Map แทน บอกละเอียด แต่ภาษาจีนเท่านั้น หาวิธีการเดินทางโดยเอาชื่อสถานที่ไปหาเป็นภาษาจีนแล้วค่อยเอามาใส่อีกที
Baidu Map
iOS : https://apple.co/4atsMkd
Android : https://bit.ly/43FhpU7
วุ้นแปลภาษา Google Translate แม้ว่าสมัยนี้คนจีนบางคนจะพอพูดอังกฤษได้บ้างแต่คนในประเทศเค้าก็ยังเน้นพูดจีนเป็นหลัก การสื่อสารกับเค้าง่ายที่สุดก็คือใช้ App Google Translate ใช้ได้ทั้งพิมพ์และพูดใส่ เผื่อเอาไว้ใช้ถามทาง ซื้อของ ต่อราคาได้ แปลเมนูอาหารอันนี้ใช้บ่อยมาก
Google Translate
iOS : https://apple.co/3TAMAeL
Andriod : https://bit.ly/49b5mz7
เข้าเมืองแบบสบายๆ บริการรับส่งส่วนตัวจากสนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (PVG) สู่โรงแรม เริ่มต้นเที่ยวละ 1,474 บาท / คัน
หลังจากผ่าน ตม. กันออกมา ด้วยความที่ไฟลท์เช้ามืดมากๆ เพื่อความสะดวก เราเลยจองรถ Limousine ล่วงหน้ามา โดยเค้าจะมารอรับเราตั้งแต่ออกจาก ตม. เลยนะ ใส่เสื้อสีแดงมายืนถือป้ายชื่อรอเลย หลังจากนั้นก็จะพาเราไปขึ้นรถ ตอนจองเค้าบอกว่า 2 คน ได้เป็นรถซีดาน แต่วันที่เราบินไป ได้เหมือนเหมือน SUV นะ พนักงานช่วยเหลือดี ช่วยยกกระเป๋าให้หมด นั่งสวยๆ จนถึงโรงแรม อัมจองผ่าน Klook ล่วงหน้าจากไทยไปเลย เริ่มต้นรถซีดานเที่ยวละ 1,474 บาท / คัน ในกฏเขียนว่านั่งได้ 3 คน แต่กระเป๋าได้ 2 ใบ โดยหลังจากชำระเงินเสร็จแล้ว ก่อนวันนัดรับเค้าจะเมลล์ส่งรายละเอียดคนขับ เบอร์ติดต่อมาให้เรา
จองรถ Limousine รับ หรือ ส่งจากสนามบินบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (PVG)
จองเลย >> https://bit.ly/SHLimousine
การเดินทางเที่ยวใน เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ส่วนมากเราเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Shanghai Metro ซึ่งครอบคุมทุกที่ และสะดวกสบายมาก ไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด แถมค่าโดยสารก็ถูกมาก ๆ มือใหม่หัดเที่ยวจีน ไม่ต้องกลัวหลง เที่ยวง่ายเดินทางสะดวกไม่มีหลงแน่นอน
Jinjiang Metropolo Hotel Classiq Ymca People Square นอนสะดวกใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้า Dashijie แค่ 2 นาที ห้องใหญ่ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อรอบๆ
Jinjiang Metropolo Hotel Classiq Ymca People Square อยู่แถวย่าน People Square ติดถนนเลย ติดรถไฟฟ้าสถานี Dashijie Exit 2 เดินแค่ 2 นาทีถึง รอบๆ โรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ มีร้านอาหาร หลายร้านอยู่นะ ห้องนอนกว้าง 32 ตรม. ติดตรงพื้นเป็นพรมนิดนึง แต่ห้องน้ำรีโนเวทใหม่ นอนสบาย มี Wifi ฟรี
จองโรงแรม Jinjiang Metropolo Hotel Classiq Ymca People Square
ได้ที่นี่ >> https://agoda.tp.st/842eyLRb
สวรรค์คนรักช้อปปิ้ง ถนนหนานจิง (Nanjing Road) เดินช้อปปิ้ง หาข้าวกิน กันได้บนถนนที่มีความยาวกว่า 5.5 กิโลเมตร
ถนนหนานจิง (Nanjing Road) สวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้ง ถนนช้อปปิ้งหลักของเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ที่มีความยาวกว่า 5.5 กิโลเมตร และยังเป็นหนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คนเยอะที่สุดของโลกด้วย มีทั้งร้านแบรนด์เนม ร้านค้าชื่อดัง และร้านอาหาร ใครไปเดินไม่ค่อยเจอร้านอาหารด้านนอก ให้เดินเข้าไปในตึกนะจ้ะ ร้านของกินเยอะมาก!!! ร้านบุฟเฟ่ต์เจ้าดังก็อยู่ย่านนี้ด้วย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อยมาเดินย่านนี้มีครบจบในที่เดียว
ถนนหนานจิง (Nanjing Road)
วิธีการเดินทาง : Metro Line 2,10 ลงสถานี East Nanjing Road ทางออก 3
เดอะบันด์ (The Bund) หรือหาดไว่ทาน (Wai Tan) สวยเหมือนวาร์ปไปเดินเล่นอยู่ที่ยุโรป แลนด์มาร์คหลักของเซี่ยงไฮ้
เดอะบันด์ (The Bund) หรือหาดไว่ทาน (Wai Tan) แหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ประจำเมือง เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง พื้นที่ริมน้ำที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ริมแม่น้ำหวงผู่ เสียดายเรามาฟ้าไม่ค่อยดี หมอกและฝุ่นเยอะไปนิด แต่มีน้องทิวลิปสวยๆ ปลอบใจ ทำให้บรรยากาศดูเหมือนอยู่ยุโรปเลย
ใครอยากมาเดินเล่นแบบไม่มีคนแนะนำให้มาช่วง 7 โมงเช้านะ คนน้อยเหมือนปิดเมืองเลย นอกจากจะมีตึกอาคารรูปทรงสไตล์ยุโรป ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี มีธนาคารกรุงเทพ และวัวกระทิง (สัญลักษณ์ทางการเงินเหมือนที่นิวยอร์ค) อยู่ด้วย ฝั่งตรงข้ามจะมีหอไข่มุก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ ถ้าใครมา เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) แล้วไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้ถือว่ามาไม่ถึง
ตอนกลางวันที่ว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนพอเปิดไฟแล้ว ตึกกลายเป็นสีทองสว่างสไว สวยไปอีก ฟีลอารมณ์เดียวกับที่ Budapest เลย ใครที่มาวันหยุดคนจะเยอะหน่อยนะ
ถ่ายรูปไปก็จะเจอ ฉากหลังที่เห็นหอไข่มุก หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ Oriental Pearl, Shanghai Tower และ Jin Mao Tower ที่เราสามารถมองเห็นได้จาก The Bund ใครชอบถ่ายภาพตอนกลางคืนนี่ถูกใจแน่นอน
เดอะบันด์ (The Bund) หรือหาดไว่ทาน (Wai Tan)
การเดินทาง : Metro Line 2,10 ลงสถานี East Nanjing Road 南京东路 ทางออก 5 เดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร
North Bund Green Land สวนสาธารณะริมน้ำที่มีมุมถ่ายรูปสุดปัง ถ่ายรูปกับโดมไข่สีเงินท่ามกลางบรรยากาศสวนริมน้ำกัน
North Bund Green Land สวนสาธารณะสุดปังริมน้ำ ที่มุมถ่ายรูปใหม่ตามรอย พ.ส. จีน บริเวณนี้เป็นพื้นที่สีเขียวริมแม่น้ำฝั่งเหนือของ The Bund ในเขตหงโข่ว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจใหม่ของชาวเซี่ยงไฮ้ ภายในสวนอันร่มรื่น บรรยากาศดีงาม ตอนเย็นๆ เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนมาชอบมาเดินเล่นปล่อยชิวกัน ตรงนี้คนจะไม่เยอะเท่ากับที่ The Bund นะ อัมแนะนำเลย
นอกจากนี้แล้วบริเวณนี้ยังมีจุดไฮไลท์ที่ชื่อเสียงมาก ๆ ฮิตสุด ๆ ในโซเชียล มาถ่ายรูปกับโดมไข่สีเงิน ท่ามกลางบรรยากาศสวนริมน้ำที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ วันไหนอากาศดีดีนะ จะสวยม้าก เพราะมีฉากหลังเป็นหอไข่มุก และเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ สวยเต็มสิบเลยจ้า
ส่วนใครมาตอนกลางคืน ก็สวยไม่แพ้กัน เราชอบมุมนี้มาก ใครชอบเดินชิวๆ ตรงนี้มีทางเดินริมน้ำยาว เดินไปถึง The Bund ได้เลย แต่ระยะทางไกลนิดนึง แต่วิวสวยสุด
ใกล้ๆ กัน ก็ยังจะมีอีกตึกที่เก๋มาก นั่นคือ Music Gate ตึกใหญ่ๆ ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ ภายใต้คอนเซปต์ที่สร้างชื่อโดยมีดีไซน์เป็นหัวใจ และตับเป็นไอคอน ถ่ายรูปกันเพลินสุดๆ
North Bund Green Land และ Music Gate
การเดินทาง : Metro Line 12 ลงสถานี International Cruise Terminal ทางออก 3 เดินประมาณ 10 นาที
M50 Creative Space สายอาร์ตห้ามพลาด รีโนเวทโกดังเก่า ให้กลายเป็น Creative Space สุดชิค รวบรวมงานจากศิลปินชื่อดังนับ 100 จากทั่วโลก
M50 Creative Space อีกหนึ่งพิกัดที่สายอาร์ตและคนรักศิลปะห้ามพลาดเลย เค้ารีโนเวทโกดังเก่าให้กลายมาเป็นย่าน Creative Space สุดชิค ที่รวบรวมศิลปินชื่อดังนับ 100 จากทั่วโลกมาโชว์ผลงานศิลปะเป็น Exhibition เลย มุมถ่ายรูปคือเยอะมาก มีร้านชาตรามือจากไทยไปเปิดด้วย!!
ที่นี่จะมีหลายตึก เราสามารถเดินวนเวียนอยู่ในนั้นเพื่อเลือกชมห้องแกลอรี่ต่าง ๆ ของศิลปินได้ แต่ละตึกจะโชว์งาน บางห้องต้องเสียตังค่าเข้า บางห้องเข้าชมได้ฟรี คาเฟ่ ร้านขายของเก๋ ๆ มุมถ่ายรูปชิค ๆ ก็เยอะมาก ๆ
M50 Creative Space
วิธีการเดินทาง : Metro Line 13 ลงสถานี Jiangning Road ทางออก 1 เดินประมาณ 12 นาที
อาคารพันต้นไม้ หรือ เทียนอันเชียนซู่ (Tian An 1,000 Trees) พิกัดเช็คอินใหม่ล่าสุดที่เซี่ยงไฮ้ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยใหม่ที่เทียบได้กับสวนลอยบาบิโลนโบราณ
หนึ่งในจุดแลนด์มาร์คใหม่ อาคาร เทียนอันเชียนซู่ (Tian An 1,000 Trees) ที่ถูกออกแบบโดยโทมัส เฮเธอร์วิก สถาปนิกชาวอังกฤษ โครงการยักษ์ใหญ่สุดอลังการแห่ง เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ที่เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ที่แสดงงานศิลปะ ที่พัก และสวนสาธารณะริมน้ำนอกจากตัวอาคารจะดูเก๋มาก เค้ายังบอกว่าต้นไม้เหล่านี้จะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 21 ตันทุกปีด้วยนะ ตอนนี้สร้างเฟสแรกเสร็จแล้วกำลังสร้างเฟสที่สองด้านหลังต่อ
แถมมาไม่ยาก เดินจาก M50 Creative Space มาแค่ 10 นาที อยู่ริมฝั่งแม่น้ำซูโจวที่บรรยากาศคือชิวเว่อร์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300,000 ตรม. โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘เขาหวงซาน’ ในมณฑลอันฮุย ใครหามุมถ่ายรูปใหม่ๆ แนะนำที่นี่เลยค่ะ ด้านในมีร้านกาแฟ Arabica ด้วยนะ ถ่ายรูปกันเหนื่อยก็แวะไปกินกาแฟได้
อาคาร เทียนอันเชียนซู่ (Tian An 1,000 Trees)
วิธีการเดินทาง : Metro Line 13 ลงสถานี Jiangning Road ทางออก 1 เดินประมาณ 8 นาที
อุโมงค์ Bund Sightseeing Tunnel อุโมงค์ที่ลอดแม่น้ำสายแรกของจีนสุดปัง แสง สี เสียงสุดอลังยังกับทะลุมิติ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ที่ต้องมา! The Bund Sightseeing Tunnel อันนี้คือเก๋มาก ฟีลนั่งรถไฟเล็กๆ วาร์ปทะลุมิติ เป็นอุโมงค์ที่ลอดแม่น้ำสายแรกในประเทศจีน มีความยาวทั้งสิ้น 646.7 เมตร สร้างอยู่ใต้แม่น้ำหวงผู่ แม่น้ำสายสำคัญของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเดอะบันด์และหอคอยไข่มุกตะวันออก ความเก๋คือภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยเเสงเลเซอร์ แบบจัดเต็ม แม้จะใช้เวลาแค่ 4 นาทีแต่ตื่นตาตื่นใจสุดๆ ราคาตั๋วจะอยู่ 55 หยวน (ประมาณ 275 บาท) อัมแนะนำว่าให้จองล่วงหน้าผ่าน Klook มาดีกว่า ราคาถูกกว่า เหลือ 229 บาท แถมไม่ต้องรอต่อคิว โชว์ QR Code สแกนเข้าได้เลย เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00–22.00 น.
ทัวร์อุโมงค์ชมทิวทัศน์เซี่ยงไฮ้บันด์ (The Bund Sightseeing Tunnel)
จองเลย >> https://bit.ly/thebundtunnel
Shanghai Tower ชมพระอาทิตย์ตกและแสงไฟยามค่ำคืนของเซี่ยงไฮ้ จากตึกระฟ้าที่สูงเป็นอันดับสองของโลก
ปิดท้ายวันกันที่ เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) คนละ 907 บาท ไปชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) แบบ 360 องศา บนชั้น 118 ตึกนี้คือตึกที่สูงที่สุดในจีน และสูงเป็นอันดับสองของโลก ตอนขึ้นลิฟท์ขึ้นมาคือว้าวมาก เป็นการขึ้นลิฟต์ด้วยความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! แปปเดียวก็ขึ้นมาถึงชั้น 118 แล้วจ้า สำหรับเรื่องตั๋ว บัตรเข้าจุดชมวิวตึก Shanghai Tower ชั้น 118 แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าผ่าน Klook มาดีกว่า ไม่ต้องรอต่อคิว เปิดแถมวิธีใช้ก็ง่ายโชว์ QR Code สแกนเข้าได้เลย ง่ายมาก!!
บัตรเข้าจุดชมวิวตึก Shanghai Tower ชั้น 118
จองเลย >> https://bit.ly/AJShanghaiTower
วิวกลางคืนคือว้าวมากนะ พอเมืองเปิดไฟแล้วสวยสุดๆ เลย นอกจากวิวสวยๆ เค้าก็ยังมีห้องนิทรรศการมัลติมีเดีย ที่เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบและสถาปัตยกรรมของตึกเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ได้ด้วย และนอกจากนั้นยังมีที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกอยู่บนตึกนี้ด้วยจ้า
เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower)
เปิดให้บริการตั้งแต่ 09:00–21:00 น. (ปิดขายตั๋ว 20:30 น.)
การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานนี Lujiazui จากนั้นก็เดินต่อมาได้เลยบัตรเข้าจุดชมวิวตึก Shanghai Tower ชั้น 118
จองเลย >> https://bit.ly/AJShanghaiTower
Shanghai Disneyland เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ เที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อัพเดทโซนใหม่ Zootopia ที่แรกของโลก
วันที่ 3 นี้ ไปตะลุย Shanghai Disneyland (เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์) กันค่า สนุกสุดเหวี่ยงกับดิสนีย์แลนด์ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากฟลอริดา ไฮไลท์ต้องยกให้ Enchanted Storybook Castle ปราสาทดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับเรื่องตั๋ว Shanghai Disneyland (เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์) แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าผ่าน Klook มาดีกว่า ไม่ต้องรอต่อคิวหน้าสวนสนุก เปิดแถมวิธีใช้ก็ง่ายโชว์ QR Code สแกนเข้าได้เลย ง่ายมาก!!
บัตรเข้าสวนสนุก Shanghai Disneyland
จองเลย >> https://bit.ly/SHDisneyland
ใครสายพาเหรด เตรียมจับจองพื้นที่ รอดูพาเหรด Mickey’s Storybook Express กันไว้ได้เลย สำหรับใครที่ชอบดูพาเหรดตัวละครต่าง ๆ ของดิสนีย์ ให้ตั้งนาฬิกาไว้ให้ดี ขบวนพาเหรดจะเริ่มตั้งแต่ 15:30 น.
ภายใน Shanghai Disneyland (เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์) มีทั้งหมด 6 ธีมพาร์คด้วยกัน ทั้ง Adventure Isle, Mickey Avenue, Gardens of Imagination, Tomorrowland, Treasure Cove และ Fantasyland มีสารพัดเครื่องเล่น พร้อมอัพเดทโซนใหม่ Zootopia สาวกดิสนีย์หลุดเข้ามาแล้วคือเพลินมาก ๆ อยู่ได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย
ไฮไลท์เครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาด TRON Lightcycle Power Run / Pirates of the Caribbean: Battle for the Sunken Treasure / Seven Dwarfs Mine Train / Soaring Over the Horizon / Voyage to the Crystal Grotto
อัพเดทโซนใหม่ Zootopia ที่แรกในโลก เราจะได้ผจญภัยสุดว้าวไปกับเครื่องเล่นที่จะสร้างความระทึกปั่นป่วนตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเรือลาดตระเวนไถลข้ามน้ำแข็งของ Tundratown ที่จะพาเราบินออกนอกเส้นทางไปยังถนนอันพลุกพล่านของจัตุรัส Sahara
ใน Zootopia จะได้พบกับสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มากกว่า 200 รายการ หลายชิ้นได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับดินแดนนี้ นอกจากนี้ เรายังจะได้พบกับสิ่งของที่มีธีมตามฉากอันโด่งดังในภาพยนตร์ เช่น Fashions by Fru Fru Toy Bricks และ Tundratown Building Toy Bricks เหมาะเป็นของที่ระลึกหรือของขวัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับเพื่อนและครอบครัว
ปิดท้ายก่อนกลับ ด้วยการแสดงโชว์แสง สี เสียง พลุสุดอลังการ Ignite the Dream — A Nighttime Spectacular of Magic and Light ช่วงเวลา 20:30 น. ที่หน้าปราสาทดิสนีย์หลังใหญ่ที่สุดในโลก
Shanghai Disneyland (เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์)
การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดิน Line 11 ซึ่งจะวิ่งระหว่างสถานี North Jiading/Huaqiao/Anting และสิ้นสุดที่สถานี Disney Resort ค่าเดินทาง 6 หยวน
บัตรเข้าสวนสนุก Shanghai Disneyland
จองเลย >> https://bit.ly/SHDisneyland
สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden) โอเอซิสใจกลางเซี่ยงไฮ้ ขนาดใหญ่มาก มีอายุมากกว่า 400 ปี สร้างโดยเศรษฐีเพื่อเป็นที่พักผ่อนให้แก่พ่อ
เช้าวันที่สี่ เราพามาเที่ยวกันที่ สวนอวี้หยวน (Yuyuan Garden) สวนนี้มีประวัติที่ยาวนานมากกว่า 400 ปี แห่ง เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) โดยเค้าเล่ากันว่าเป็นสวนที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งสร้างขึ้นเพื่อมอบแด่คุณพ่อของเขา เพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบสุข แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนดอกไม้ที่ถูกตกแต่งตามสไตล์จีนอย่างสวยงาม โดยที่นี่จะมีค่าเข้าคนละ 30 หยวน
ภายในสวนเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดที่จัดเรียงไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีศาลาที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ร้านขายของต่างๆ ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณมากกว่า 20 หลัง ทั้งเก๋งจีนและศาลาอีกหลายหลังตั้งอยู่กระจัดกระจายเต็มสวน ทำให้เราเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในสมัยราชวงศ์หมิงเลย
ในสวนแห่งนี้ยังมีภูเขาจำลองที่ทำขึ้นด้วยหินสีเหลืองหนักหลายพันตัน สูงถึง 14 เมตร นับเป็นภูเขาจำลองที่ยิ่งใหญ่และเหมือนจริงมากๆ และใกล้วันตรุษจีนหรือเทศกาลจีนอื่นๆ สวนแห่งนี้จะถูกประกับประดาด้วยโคมไฟยิ่งใหญ่อลังการ แสงและสีสวยงามตระการตาสุดๆ ในยามค่ำคืน ทำให้สวนอี้หยวนกลายเป็นจุดเช็คอินที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้
อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด ทังเปา (เสี่ยวหลงเปา) ด้านในเป็นซุปปู มีหลอดให้ดูดน้ำซุป เนื้อแป้งหน้า ด้านในจะไม่ค่อยมีไส้นะเน้นที่น้ำซุป
ส่วนสวนชั้นนอกที่ไม่เสียค่าเข้าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักมาก มีตรอกซอกซอยมากมาย เต็มไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งแบบเก๋งจีน มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึกที่เป็นงานฝีมือของคนจีน เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ร้าน H&M และ Starbucks เรียกได้ว่าถูกใจขาช้อปอย่างแน่นอน ทุกร้านถูกดีไซน์เป็นตึกจีน ร้านที่สร้างขึ้นมาใหม่ก็จะออกแบบให้สอดคล้องกันหมด ดูเเล้วกลมกลืนสวยงามมาก
สวนอวี้หยวน (Yuyuan Garden)
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่สถานี Yuyuan Garden(Line 10) แล้วใช้ Exit 1 เมื่อเดินขึ้นสถานีมาเดินตามป้ายบอกทางอีก 5 นาทีก็จะถึงบริเวณสวน
World Expo Museum พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่จัดงาน Shanghai Expo 2010 ในพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 96,875 ตารางฟุต มุมถ่ายรูปจึ้งมาก!!
World Expo Museum พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่จัดงาน Shanghai Expo 2010 ในพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 96,875 ตารางฟุต (9,000 ตารางเมตร) ถือเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียวในโลกที่อุทิศให้กับงาน World Expo ทั้งหมด
ความปัง คือสถาปัตยกรรมโครงสร้างของตัวอาคารด้านนอกคือล้ำมาก ๆ สะดุดตาเว่อร์ กรุด้วยกระจกใส สลับกับผนังที่หุ้มด้วยทองแดง ก่อตัวเป็นโครงสร้างที่แปลกตา เป็นพื้นที่ในร่มเงากลางแจ้งแบบอินเทอร์แอกทีฟ ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วปังมาก
ด้านในประกอบด้วยโถงนิทรรศการถาวร 8 แห่ง โถงนิทรรศการชั่วคราว 3 แห่ง นอกจากนั้นก็ยังมีศูนย์วิจัย ห้องสมุด โรงภาพยนตร์ และคลังสินค้า และชิ้นงานกว่า 3,000 ชิ้นที่จัดแสดงจากงานเอ็กซ์โปครั้งก่อน ตลอดจนวิดีโอ และฟุตเทจมัลติมีเดีย และอื่น ๆ อีกมากมาย
World Expo Museum
วิธีการเดินทาง : Metro Line 13 ลงสถานี World Expo Museum ทางออก 2
Xintiandi เดินเล่นย่านซินเทียนตี้ อีกหนึ่งย่านท่องเที่ยวสุดชิคในเซี่ยงไฮ้ ร้านเก๋ๆ เยอะม้ากกก
ต้องบอกว่าบรรยากาศร่มรื่นมาก มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีน ผสมกับวัฒนธรรมตะวันตก โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบชิคูเมน ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกกับจีนเข้าด้วยกัน ภายในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารเก๋ ๆ มากมาย
อาหารที่ขายในย่านนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ร้านคาเฟ่ จนถึงร้านอาหารนานาชาติ อาหารยุโรป อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่งเศส รวมถึงอาหารจีนสไตล์ฟิวชั่น ให้เลือกทาน มีโต๊ะนั่งทานด้านนอกเหมือนกับร้านอาหารในยุโรปอย่างไงอย่างงั้น ได้ฟีลเว่อร์ และยังมีร้านค้า ร้านแบรนด์เนมต่าง ๆ มาเปิดในย่านนี้ จนเป็นอีกหนึ่งย่านช้อปปิ้งของ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ยอดนิยมอีกด้วย
ย่าน Xintiandi
วิธีการเดินทาง : Metro Line 10,13 ลงสถานี Xintiandi ทางออก 6 เดินไปเรื่อย ๆ ตามถนน Madang
Wukang Mansion หวูขางแมนชั่น ที่พักเซเลปชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ จุด Photo Spot ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมมาถ่ายรูปกัน
Wukang Mansion หวูขางแมนชั่น ตึกเก่าสุดคลาสสิคแห่ง เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) จุด Photo Spot ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมมาถ่ายรูปกัน ตั้งอยู่ริมถนนเส้น Wukang Road โดยรอบ ๆ ก็จะมีร้านเบเกอร์รี่ คาเฟ่ ร้านอาหารมากมาย รวมไปถึงคาเฟ่ชื่อดังอย่าง %Arabica ด้วย ตึกนี้สร้างเสร็จในปี 1924 และเป็นหนึ่งในอาคารที่ทางการจีนอนุรักษ์ไว้
ในอดีตตึกนี้เคยเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่ชาวต่างชาติที่มาทำงานที่เซี่ยงไฮ้เคยอาศัยอยู่ แล้วก็ถูกเศรษฐีจีนซื้อไป ทำให้กลายเป็นที่พักที่ฮิตในหมู่ Celebrities ชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ ตัวอาคารจะตั้งอยู่โดดเด่นบนห้าแยกเลย มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Flatiron ที่นิวยอร์ก
Wukang Mansion หวูขางแมนชั่น
วิธีการเดินทาง : Metro Line 10,11 ลงสถานี Jiaotong University ทางออก 1
สะพาน Zhapu Road Bridge [乍浦路桥] อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปคู่กับหอไข่มุกที่สวยที่สุด
เย็นนี้ก่อนไปกินข้าว ขอปิดท้ายด้วยวิวสะพาน Zhapu Road Bridge [乍浦路桥] ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปวิวหอไข่มุกได้สวยที่สุด เพราะมองเห็นWaibaidu Bridge
สะพานเหล็กแห่งแรกของเซี่ยงไฮ้ ที่เปิดไฟสีแดง และยังเป็นจุดที่คนจีนชอบมาถ่ายพรีเว็ดดิ้ง ตรงนี้สามารถเดินไปยัง Shanghai Postal Museum ได้อีกด้วย วิวตอนกลางคืนคืออลังสุดๆ
สถานี Yuyuan สถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก “แม่น้ำหวงผู่”
Metro สถานี Yuyuan นี่คือสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดใน เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก ดีไซน์ออกมาได้ความพลิ้วไหวดั่งสายน้ำ จากการตกแต่งตั้งแต่เสาไปถึงฝ้าเพดาน ได้แรงบันดาลใจมาจาก “แม่น้ำหวงผู่” ที่ทางรถไฟนี้ลอดผ่านนั่นเอง
Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund โรงแรมสุดคุ้ม ย่านสวนอี้หยวน ห้องดี ชักโครกอัตโนมัติ กลางคืนมีอาหารให้กินฟรี มี Shuttle Bus ส่งสถานีรถไฟฟ้า ยัน The bund มี Laundry ให้ใช้ฟรี!!
ชี้เป้าโรงแรมเซี่ยงไฮ้ที่นอนแล้วสุดประทับใจ ย่าน Yuyuan Garden (สวนอี้หยวน) นั่นคือ Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund ในเครือ Accor Hotel อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน Laoximen ประมาณ 10 นาที ห้องดีงาม มีชักโครกอัตโนมัติ ตอนกลางคืน Midnight Snack Time มีโจ๊ก มีข้าวต้ม เกี๊ยวให้กินฟรีด้วย และมีรถ Shuttle Bus ฟรี ส่งตามจุดต่างๆ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นห้าง มีร้านอาหารเพียบ มี Haidilao เปิดยันตี 3 มี Laundry ให้ใช้บริการฟรี!! คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
อ่านรีวิวโรงแรมละเอียด Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund คลิ๊กเลย
ตัว Lobby ค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นมีโซฟาที่นั่งพักผ่อน ข้างๆ Counter Check-in เค้าจะมีมุม Refreshing แจกฟรี มีชาผลไม้ร้อนๆ มีขนมและถั่วซองเล็กๆ มีน้ำดื่ม หยิบได้ฟรี และมีเติมตลอด 24 ชั่วโมง แต่ว่าไอติม Häagen-Dazs ไม่ฟรีนะจ้ะ ถือว่าช่วยประหยัดค่าน้ำไปได้เยอะ
อีกหนึ่งจุดดีของที่นี่ แม้ว่าจะไม่ได้ติดสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งจิงๆ เดินเอาได้นะ ประมาณ 10 นาที แต่ที่ Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund ก็ลบจุดด้อยตรงนี้ด้วยบริการ Shuttle Bus ฟรี ถือว่าสะดวกมาก เพราะวิ่งไปส่งทั้งยังสถานีรถไฟฟ้าใกล้ๆ และไปส่งไกลถึง The Bund / Xintiandi / Huaihai Park และ Yunnan Road
ในช่วงเช้ารถจะมีตั้งแต่ 8.00 / 8.30 / 9.00 / 10.00 / 11.00 น. ส่วนช่วงเย็นจะมีตั้งแต่ 16.00 / 17.00 / 18.00 / 19.00 น. ใครจะใช้บริการอย่าลืมลงมารอตรง Lobby ล่วงหน้าซัก 5–10 นาทีนะจ้ะ
ห้องที่อัมนอนวันนี้เป็นห้อง Deluxe Kingsize Bed ห้องกว้างมาก ไซส์ 32 ตรม. มีโซฟาเบด มีโต๊ะทำงานให้ ทีวีจอใหญ่ มีตู้เย็น พร้อมมินิบาร์ฟรี เติมทุกวันเลยนะ มีเครื่องทำกาแฟ กาน้ำร้อน พร้อมน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด แต่ถ้าไม่พอเดินลงไปเอาตรง Lobby ได้ตลอด ส่วนห้องน้ำก็ดีนะ เค้าแยกห้องเลย ระหว่างห้องอาบน้ำ และสุขา มีฝักบัวพร้อม Rain Shower อาบสบายๆ ส่วนห้องน้ำเอาไปสิบเต็ม เป็นชักโครกอัตโนมัติ
ไลน์อาหารเช้าของ Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund ถือว่าเยอะอยู่ประมาณนึงเลยนะ มีทั้งขนมปัง แฮม ไข่ ข้าวผัด ผัดผัก ติ่มซำร้อนๆ ซาลาเปา ขนมจีบ สลัด เกี๊ยวน้ำทำใหม่ๆ คือดีม้ากกก ไข่ต้มใบชา สลัด ผลไม้ โยเกิร์ต น้ำผลไม้ต่างๆ นมร้อนอร่อยมาก ชา-กาแฟ ฯลฯ กินรองท้องก่อนออกไปเที่ยวกันได้
ส่วนไฮไลท์อีกอย่างของที่ Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund เลยนั่นคือ Midnight Snack Time มีมื้อดึกให้กินฟรีจ้า!! ตั้งแต่ 21.30–23.00 น. ตัวอาหารจะมีทั้งข้าวต้ม มีกับข้าว 1–2 อย่าง มีบะหมี่ มีเกี๊ยวน้ำทำให้ทานร้อนๆ บอกเลยว่าฟินและคุ้มที่สุด กินอิ่มฟินม้ากกก
จองโรงแรม Mercure Shanghai Yu Garden On The Bund
ได้ที่นี่ >> https://agoda.tp.st/gx8QholD
นั่งรถไฟความเร็วสูงจาก เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) สู่ หางโจว (Hangzhou) ใช้เวลาเร็วสุดชั่วโมงเดียวเท่านั้น มีวันนึงหลายเที่ยว จองและจ่ายออนไลน์ได้
ไปต่อกันเมืองที่ 2 นั่นคือ หางโจว (Hangzhou) ต้องบอกว่าสะดวกมาก นั่งรถไฟความสูงจาก เซี่ยงไฮ้ (Shanghai ) เร็วสุดแค่ 60 นาทีเท่านั้น แนะนำให้ไปขึ้นที่สถานี Shanghai Hongqiao เป็น 1 ใน 4 ศูนย์กลางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยเราจะนั่งไปลงที่สถานี Hangzhou East
สำหรับคนที่จะซื้อตั๋ว เพื่อความสะดวก อัมแนะนำซื้อผ่าน Trip.com เลย สะดวกมาก เหมือนนั่งรถไฟ Shinkansen ของญี่ปุ่นเลยจ้า จ่ายผ่านบัตรเครดิตไทยได้ผ่าน App เลย วันนึงมีหลายเที่ยว
จองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนได้ที่นี่ >> https://bit.ly/ChinaTrains
Jingci Temple วัดเก่าแก่คู่เมืองหางโจว มีมุมถ่ายรูปคู่กับ Leifeng Pagoda ด้วย ค่าเข้า 10 หยวนเท่านั้น
Jingci Temple วัดเก่าแก่คู่เมือง หางโจว (Hangzhou) อาคารต่างๆ ในวัดก็คือสวยงามในแบบจีนมากๆ มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลย แนะนำให้เดินเข้าไปด้านหลัง ขึ้นไปด้านบน จะมองเห็น Leifeng Pagoda ด้วย ค่าเข้า 10 หยวนเท่านั้น
Jingci Temple
การเดินทาง — นั่งแท๊กซี่จากที่พัก (เรียกผ่านแอป DiDi ใน Alipay) ค่ารถประมาณ 15 หยวน
Longxiangqiao ย่านเมืองสุดคึกคัก แหล่งรวมห้างดัง ร้านแบรนด์เนม และสตรีทฟู้ด
สำหรับคนที่ชอบความคึกคัก แนะนำย่าน Longxiangqiao ใจกลางเมือง หางโจว (Hangzhou) ขึ้นมาจากรถไฟฟ้าปั๊ป ก็จะเจอกับ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้ามากมาย เป็นถนนในเมืองที่คึกคักสุดๆ มี Apple store และร้านแบรนด์เนมใหญ่มากๆๆ หลายแบรนด์เลย ตรงนี้มีของกินเพียบ สตรีทฟู้ดเป็นซอยเลยจ้า
Longxiangqiao
วิธีการเดินทาง : Metro ลงสถานี Longxiangqiao
ทะเลสาปซีหู (Xihu Lake) แหล่งท่องเที่ยวระดับมรดกโลกทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่น้ำใสราวกับกระจก
ทะเลสาปซีหู (Xihu Lake) แหล่งท่องเที่ยวระดับชาติของ หางโจว (Hangzhou) ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 2011 คำว่า “ซีหู” คือทะเลสาบตะวันตก ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองหางโจว รอบด้านประกอบด้วยภูเขา 3 ลูก อีกทั้งน้ำมีความใสราวกับกระจก จึงเป็นที่ดึงดูดใจ ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะมาที่นี่ ใครมีเวลาสามารถนั่งเรือชมวิวในทะเลสาปได้นะ เสียดายของเราฟ้าเน่า เลยไม่ได้นั่งชมวิวเลย
รอบๆ ทะเลสาป Xihu ก็จะมีแลนด์มาร์คหลายที่เลย เราสามารถเดินได้ยาวๆ จากย่าน Longxiangqiao ได้เลยนะ ไม่ว่า Yongjin Bridge ก็จะเจอกับศาลากลางน้ำ ตรงนี้คึกคักเลยแหละ มีทั้งผู้คนทำกิจกรรมเข้าจังหวะ ดนตรีในสวน กับวิวทะเลสาบ Xihu เดินไปเรือยๆ อีกก็จะเจอกับ Yongjin Bridge ตรงนี้จะมีสะพานทอดยาว แบคกราวด์เป็นภูเขาสุดอลังอีกด้วย
เดินไปอีกนิดก็จะเจอ Starbucks สาขา Xihu ด้วย เสียดายช่วงที่มาหางโจว (Hangzhou) ฝนตกตลอด รอบหน้าต้องกลับมาแก้ตัว ถ้าฟ้าดีดีคงสวยสุดๆ
ทะเลสาปซีหู (Xihu Lake)
วิธีการเดินทาง : Metro ลงสถานี Longxiangqiao เดินประมาณ 10 นาที
ปิดท้ายทริปหลบฝนกินหมาล่าฟินๆ ที่ Haidilao Hot Pot (Yong Jin Plaza) เป็นครั้งแรกที่กินสาขาในจีน พนักงานบริการดีมาก นี่ถ้าอุ้มยกไปกินได้ คงอุ้มไปแล้ว เติมน้ำ คอยดูแลตลอดจนกินเสร็จ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจมาก และต้องกลับมาแก้มือที่ หางโจว (Hangzhou) อีกรอบแน่นอน
Holiday Inn Express Hangzhou Westlake East ห้องนอนเอาไปเต็มสิบ เริ่มต้นคืนละ 2,000+ ติดรถไฟฟ้า Chengzhan แค่ข้ามถนน
Holiday Inn Express Hangzhou Westlake East โรงแรมดีมาก ติดรถไฟฟ้า Chengzhan แค่ข้ามถนน ห้องสะอาด ดูใหม่มาก ห้องใหญ่อลัง เตียงนอนสบายสุดๆ ใต้โรงแรมมีร้านข้าวเปิดดึก เดินข้ามถนนมีร้าน Family Mart เดินทางสะดวก เริ่มต้นแค่คืนละ 2,000+ เอาไปสิบเต็ม
จองโรงแรม Holiday Inn Express Hangzhou Westlake East
ได้ที่นี่ >> https://agoda.tp.st/FtrsAkTP
ได้เวลากลับบ้าน จองรถรับ-ส่งจากโรงแรมไปยังสนามบินหางโจว หารกันแค่คนละ 600 นิดๆ
หลังจากเที่ยวกันได้เวลากลับไทยแล้ว วันนี้ฝนตกกลัวรถไม่ค่อยมี เราเลยจองรถ Limousine ล่วงหน้ากลับไปยังสนามบินนานาชาติหางโจว เซียวซาน(HGH) รถคันใหญ่อยู่นะ เค้าจะมารับเราที่ Lobby พนักงานช่วยเหลือดี ช่วยยกกระเป๋าให้หมด อัมจองผ่าน Klook ล่วงหน้าจากไทยไปเลย เริ่มต้นรถเที่ยวละ 1,315บาท / คัน ก็หารกันตกคนละ 600 นิดๆ โดยหลังจากชำระเงินเสร็จแล้ว ก่อนวันนัดรับเค้าจะเมลล์ส่งรายละเอียดคนขับ เบอร์ติดต่อมาให้เรา
จองรถรับ-ส่งจากโรงแรมไปยังสนามบินหางโจว
จองเลย >> https://bit.ly/CNAirportTransfer
