รีวิว โอซาก้า (Osaka) 3 วัน 2 คืน 14 พิกัด กิน-เที่ยวแบบจัดเต็ม (อัพเดท 2024)

Aumjumma & The Gang
Aumjumma
Published in
13 min readDec 22, 2023

--

รีวิว โอซาก้า (Osaka) เมืองยอดฮิตของคนไทยแห่งภูมิภาคคันไซ แจกแพลนเที่ยว 3 วัน 2 คืน อัพเดทแลนด์มาร์คถ่ายรูปสวยและมุมลับๆ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้า พาช้อปที่ย่านชินไซบาชิ หรือไปย้อนวัยเด็กกับสวนสนุกระดับโลกที่ Universal Studio Japan พร้อมแลนด์มาร์คถ่ายรูปสวย ตะลุยกินร้านอร่อยจนพุงตึง เที่ยวเองตามรอยได้แบบไม่ต้องพึ่งทัวร์

เที่ยว โอซาก้า (Osaka) แบบไม่มีสะดุด แค่พก Krungthai Travel Card ไว้ บัตรคู่ใจคนชอบเที่ยวสะดวกตั้งแต่เริ่มวางแพลนทริป พร้อมจัดหนักรับ Travel Card Privilege แบบจัดเต็มไม่ต้องไปรอใช้ถึงต่างประเทศ!!

พก Krungthai Travel Card บัตรเดียวจบ สมัครง่าย! ผ่านแอป Krungthai NEXT ได้เลย รับบัตรเร็วสุด 2 วันกิน เที่ยว ช้อป รูดจ่ายสบายสุด กด ATM ที่ญี่ปุ่นได้ทุกตู้ที่มีสัญลักษณ์ VISA!!

ขวัญใจทุกทริปต่างประเทศ ต้องยกให้ Krungthai Travel Card สมัครง่ายมาก! ผ่านแอป Krungthai NEXT รับบัตรเร็วสุด 2 วันทำการ จะให้ส่งให้ถึงบ้านหรือไปรับที่สาขาก็ได้ พอได้บัตรมาแล้ว เปิดบัตรด้วยตนเองได้เลย ไม่ยุ่งยากเสียเวลาไปทำที่สาขา

ที่สำคัญคือแลกเงินเรทถูก เรทดีเทียบเท่าร้านแลกเงินเจ้าดัง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปข้างนอก อยู่ที่ไหนก็ได้แลกผ่านแอป Krungthai NEXT ได้เลยจ้า อย่างช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ค่าเงินเยนถูกมาก เหลือแค่ 0.23 นิดๆ นี่แลกรอเลย พอถึงเวลาบินปรากฏเรทค่าเงินขึ้น นี่รู้สึกเหมือนผู้ชนะเลยจ้า ช้อปกระจาย คุ้มสุดๆ ใครเจอเรทแบบนี้เมื่อไหร่ แลกเก็บไว้ในบัตรได้เลย

เที่ยว-กินที่ญี่ปุ่นได้แบบไม่มีสะดุด เงินหมดปุ๊ป ใช้ Krungthai Travel Card ปั๊ป ไปกดเงินสดได้ที่ตู้ ATM ที่ญี่ปุ่นได้ด้วยจ้า ความดีงามคือกดได้ทุกตู้ที่มีสัญลักษณ์ VISA ช้อปปิ้งต่อได้ไม่มีช็อตฟีล โดยที่ญี่ปุ่นใช้รหัส 6 หลักที่กดตอนเปิดใช้งานบัตร

แถมยังทำให้ทริปญี่ปุ่นสบายมากขึ้น คือสะดวกมาก จะช้อปอะไร จะกินร้านไหน ก็แค่ใช้ Krungthai Travel Card ไม่ว่าจะแตะจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ช้อปปิ้งเสื้อผ้า แตะจ่ายที่ร้านอาหารในห้างหรือตามสถานีรถไฟ ที่มีสัญลักษณ์ VISA ได้หมด คือเริ่ดมากกกกก

อ่านรายละเอียด Krungthai Travel Card เพิ่มเติมได้ที่นี่
>>
https://krungthai.com/link/krungthaitravelcard-aumjumma

พักผ่อนก่อนบินที่ห้องรับรองพิเศษ The Coral Lounge ลดสูงสุด 50% แค่แสดงบัตรและชำระค่าบริการด้วย Krungthai Travel Card

ฟินกว่าใคร แค่แสดงบัตรและชำระค่าบริการด้วย Krungthai Travel Card เข้าพักผ่อนก่อนบินที่ห้องรับรองพิเศษ The Coral Lounge ลดสูงสุด 50% (ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์) อาหารจัดเต็ม ของคาว ของหวาน เครื่องดื่มมีครบทุกแบบ แถมมีบริการนวดฟรี 15 นาทีด้วย อิ่มท้องแถมสบายตัวก่อนขึ้นเครื่องสุดๆ

เที่ยวญี่ปุ่นสบาย เล่นเน็ตไม่มีสะดุด แนะนำ eSIM.vacay ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนซิมไปมา มีหลากหลายแพคเกจ เริ่มต้น 5GB 5 วัน แค่ 199 บาท

เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวอัมเลือกใช้เน็ตแบบ eSIM ข้อดีคือเราไม่ต้องเปลี่ยนซิมไปมาให้วุ่นวาย เดี๋ยวซิมหลักหายเรื่องใหญ่อีก พอซื้อเสร็จสแกน QR Code Add เข้ามือถือปุ๊ป เปิดใช้งานได้ปั๊ป ตั้งค่าไม่วุ่นวาย บินถึงต่างประเทศใช้ได้ทันที ส่วนเบอร์หลักของเรา ก็ยังมีคนโทรหาได้ตามปกติ โดยรอบที่ไปญี่ปุ่นรอบนี้ อัมซื้อของ eSIM.vacay สะดวกมาก เพราะเค้ามีให้บริการถึง 190 ประเทศ แถมมีแพคเกจหลากหลายตามความต้องการของเรา ไม่ต้องไปเสี่ยงซื้อเน็ตที่หน้างาน อันนี้คือดีมาก

สำหรับโทรศัพท์ที่รองรับการใช้ eSIM ได้ก็เช็คได้ที่นี่เลยค่ะ https://esim.vacay.asia/th/th/esim-compatible-devices

มาดูเรื่องแพคเกจกันบ้าง คือเค้ารวมมาให้หลายเจ้ามาก ไม่ต้องไปหาเองเลย แล้วเลือกซื้อได้ตามความต้องการของเรา มีความหลากหลาย อย่างรอบนี้อัมซื้อแพค 5 วัน 5GB ไปแค่ 199 บาทของ Chunghwa Telecom นี่เที่ยวทั่วภูมิภาคคันไซ มีสัญญาณทุกที่นะ ใครสนใจเข้าไปดูที่นี่ได้ค่ะ https://esim.vacay.asia/th/th/

ไปถ่ายมุมฮิต IG Shot อันซีนโอซาก้า NAMBA YASAKA SHRINE ศาลเจ้าหัวสิงโต ไปขอพรเรื่องการเรียนและการงาน

Namba Yasaka Shrine หนึ่งในศาลเจ้าที่แปลกตาของ โอซาก้า (Osaka) ด้วยการออกแบบเป็นหัวสิงโตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า สูง 17 เมตร ความกว้าง 11 เมตรและความลึก 7 เมตร คนญี่ปุ่นนั้นมีความเชื่อกันว่าปากของสิงโตนั้นจะช่วยกลืนกินสิ่งไม่ดี ช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายและนำพามาโชคลาภเข้ามา

ที่นี่นอกจากคนญี่ปุ่นจะมาขอพรเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จยังกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนชอบมาถ่าย IG Shot กันด้วยค่ะ

Namba Yasaka Shrine
เวลาเปิด-ปิด : 6.00–17.00 น.
พิกัด :
https://goo.gl/maps/kCY2KsRHYwomhVvHA
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน นัมบะ (Numba Station) เดินต่อไปอีกประมาณ 10นาที

Kuromon Market ตลาดของกินยอดฮิต อายุกว่า 100 ปี ใจกลางเมืองโอซาก้า มาหลัง 16.30 น. มีร้านของสดลดราคา 50%

ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) เป็นตลาดสดเก่าแก่ของ โอซาก้า (Osaka) เปิดมาแล้วกว่า 100 ปี โดยตลาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น ‘ครัวของโอซาก้า’ โดยประกอบด้วยร้านต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน ละลานตามาก เรียงกันอยู่สองข้างทางเดินมีทั้งขายอาหารทะเลสด ซูชิ ซาชิมิ เนื้อย่าง ผักผลไม้ มีครบ แม้หลายๆ คนจะบอกว่าตลาดนี้ขายนักท่องเที่ยว ราคาแพง แต่ตามอัมมาดูว่ามาบ่ายๆ จะฟินกับของลดราคาแค่ไหน รับรองว่าไม่ต้องไปนั่งรอของลดราคาในซุปเปอร์ให้หิวตาลาย

อัมแนะนำว่าให้เดินดูแต่ละร้านก่อนนะ อย่าเพิ่งมาถึงแล้วปักหลักลงร้านไหนเลย บางทีร้านกลางๆ ซอยหรือท้ายซอย บางทีราคาอาจจะดีกว่า อย่างร้าน Kashin Sohonten ร้านนี้เป็นร้านซูชิ ทีเด็ดคือไปซักช่วง 3–4 โมง ซูชิก็เริ่มลดราคาแล้วนะ อย่างอัมไปได้เป็น ซูชิกุ้งตัวโตม้ากกก 5 คำ แค่ 350 เยนเอง ตกคำละ 17 บาท คุ้มมาก หรือใครอยากจะทานใหม่ๆ ก็เข้าไปนั่งสั่งทานในร้านได้นะ

ถัดมาที่ร้านนี้ Kuromon Sanpei ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ร้านนึงเลยในตลาด เค้าจะมีซูชิ ซาชิมิ วางขายที่หน้าร้าน ไฮไลท์ก็คือช่วง 16.30 น. เป็นต้นไป เค้าจะเริ่มติดป้ายเหลือง คือ ลด 50% เลยจ้า คุ้มแบบสุดๆ ซูชิชูโทโร่ + แซลมอน อิคุระ เหลือกล่อง 1,400 เยน (343 บาท) ข้าวหน้าปลามากุโร่ 3 ส่วน เหลือ 750 เยน โคตรถูก 180 กว่าบาท แล้วปลาเยอะมาก นี่สอยกลับมา 3 อย่างเลย

Maguro ya Kurogin นี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านดังประจำตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) ร้านของคนรักทูน่า เพราะจำหน่ายปลามากุโร่ส่วนต่างๆ พอเราซื้อแล้ว สามารถเลือกให้เชฟทำ ซูชิ ข้าวหน้าปลาดิบได้ ราคาก็แรงประมาณนึง

นอกจากนี้ก็ยังมีพวกของซีฟู้ดสดๆ ให้ได้สั่งกินกัน ไม่ว่าขาปูทาราบะ กุ้งยักษ์ตัวโต หอยเชลล์ ไข่หวานโปะด้วยปลาไหล เนื้อวากิวเสียบไม้ย่าง โอเด้ง หอยต่างๆ อย่างไข่หอยเม่น นี่ก็กล่องละ 2,500 เอง

นอกจากนี้ก็ยังมีร้านผลไม้ ที่รวมผลไม้จากทั่วญี่ปุ่นมาขายกันด้วย สตรอเบอร์รี่ องุ่น ลูกพลับ ส้ม เมลอน ฯลฯ แต่ราคาก็แอบแรงนิด แต่ไปแล้วทีนึง ก็อยากให้จัด​โดยเฉพาะองุ่นไซมัสคัส

ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market)
เวลาเปิด-ปิด : 9:00–18:00 น. (แต่ละร้านอาจปิดไม่เท่ากัน)
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/mHdLxsMhfYNjkPLeA
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nippombashi สาย Sakaisuji Line หรือ Sen-Nichimae Line (Exit 10)

ถนน โดทงโบริ (Dotonburi) แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า พาไปถ่ายรูปคู่ป้ายกูลิโกะมุมใหม่ให้ไม่ซ้ำใคร

มาเที่ยวโอซาก้า ไม่มา โดทงโบริ (Dontonburi) หรือ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) นี่เหมือนมาไม่ถึง ต้องบอกว่า ถนนโดทงโบริ นี่คือย่านการค้าที่สำคัญของโอซาก้า (Osaka) เรียกได้ว่าคือ แหล่งละลายเงินเยน สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง โดยฝั่งของ โดทงโบริ (Dontonburi) ก็จะเน้นไปทางร้านสตรีทฟู้ดต่างๆ มีป้ายไฟสีสันสดใส ถ่ายรูปยามค่ำคืนคือสวยมาก

ส่วน ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) นี่เรียกได้ว่ามาเกือบทุกวันก็ว่าได้ เพราะเป็นแหล่งรวมที่ช้อปที่มีหลังคายาว ฝนตกก็ไม่ต้องกลัว และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปกับป้ายไฟกูลิโกะกัน ส่วนร้านอาหารที่ขึ้นชื่อก็มีทั้ง กินปูที่ Kani Doraku หรือ กินทาโกะยากิเจ้าดัง Kougarya Takoyaki และ ราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen ก็อยู่แถวนี้ทั้งนี้

อัพเดทมุมถ่ายรูปเก๋ๆ กับป้ายไฟกูลิโกะ แถมถ่ายฟรีด้วย! ใครอยากได้รูปไม่ซ้ำคนอื่น ฟีลไปวิ่งแข่งลงสนามกับกูลิโกะแมน ให้เดินมาที่ร้าน nanohana 戎橋店 อยู่ติดริมคลองตรงข้ามป้ายกูลิโกะเลย เค้าจะทำมุม Trick Art เหมือนเราอยู่ลู่วิ่งเดียวกัน ถ่ายออกมาแล้วได้รูปประมาณนี้เลยจ้า

ร้าน Nanohana
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 น. — 21.00 น.
พิกัด :
https://bit.ly/GulicoSpot

ส่วนร้านช้อปก็มีตลอด 2 ข้างทาง ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ร้านขายยา ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านขายของที่ระลึกเยอะแยะไปหมด มาเที่ยวโอซาก้าทั้งทีอยากได้อะไรรับรองมีขายหมด ใครมีเงินเยนเหลือๆ เอามาช้อปปิ้งที่นี่กันได้จ้า

ก่อนไปกินข้าวเย็น ก็แวะช้อปกันซักหน่อย ตอนอัมไปเป็นช่วงที่ยูนิโคล่ เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) คือลดเยอะมาก เข้าไปแปปเดียวได้ออกมา 2 ถุง ช้อปสนุกแบบนี้ แตะจ่ายด้วย Krungthai Travel Card กันฟินๆ ไปเลยจ้า ไม่ต้องพกเงินสดให้เยอะ ไม่ต้องมานั่งเก็บเงินทอน แล้วนี่แลกมาตอนเรทถูก คุ้มสุดๆ

ย่าน Shinsaibashi
พิกัด :
https://goo.gl/maps/yQCPcpZHcZTSaTnRA

ชวนมาล้มวัวกันที่ Yakiniku Rikimaru ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างในตำนานแห่งย่าน Shinsaibashi

ปิดท้ายวันแรกกันแบบจุกๆ ที่ ร้าน Yakiniku Rikimaru คือร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างในตำนานของโอซาก้า (Osaka) ที่มากินทุกรอบ ในโอซาก้ามีถึง 5 สาขา ร้านอยู่แถวๆ Namba และ Shinsaibashi ทำให้กลายเป็นร้านในใจของชมรมคนรักเนื้อ วันนี้เรามากินที่สาขา Shinsaibashi ตึก IS ชั้น 4 ใครจะมากินหลายคนแนะนำให้มาจองก่อนนะ ตัวราคาเค้าจะมีสามแพค Standard / Premium / Number 1 โดยราคาก็จะแยกกันอีก มีแบบ 90 และ 120 นาที เริ่มต้นที่ 2,980 เยน ส่วนค่าเครื่องดื่มรีฟิล ก็คนละ 1,000 เยน

อย่างวันนี้เราเลือกแบบ Premium คนละ 3,480 เยน ก็จะได้เมนูเยอะขึ้นมาอีกหน่อย ดูเนื้อแต่ละตัวสิ น่ากินม้ากกก แต่คำว่า 90 นาที นี่คือสั่งได้ 60 นาทีนะ แล้วนั่งกินได้ถึง 90 นาที ตรงนี้ต้องวางแผนกันให้ดีดี ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ สั่งผ่านตัว Tablet เนื้อคืออร่อยมาก มีพวกเครื่องในด้วยนะ ส่วนคุณแฟนชอบกินลิ้นวัว คืออร่อยสุดๆ เมนูค่อนข้างหลากหลายอยู่ มีไอติมให้ตักกินปิดท้ายด้วย มื้อนี้ก็แตะจ่ายสบายๆ ด้วย Krungthai Travel Card อิ่มแบบจุกๆ

Yakiniku Rikimaru สาขา Shinsaibashi
จองโต๊ะ :
https://bit.ly/RikimaruRSV
เวลาเปิด-ปิด : 16.00–24.00น.
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/t915tYknUx1r7o516
การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Shinsaibashi (Exit 6)

ไปย้อนวัยเด็กที่ Universal Studio Japan (USJ) ตั้งแต่เช้ายันค่ำ อัพเดทโซนใหม่ Super Nintendo World

มาถึงโอซาก้าทั้งที จะพลาดไม่มา Theme Park สวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studio Japan (USJ) ได้ยังไง จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่รับรองมาที่นี่แฮปปี้ทุกคน ซึ่งที่นี่เค้ามีให้เล่นถึง 9 โซน แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่ได้ซื้อ Express ยังไงก็เล่นไม่ครบ ดังนั้นวันนี้ป้าเลยตั้งมิชชั่นเอาไว้ว่า ขอให้ได้อย่างน้อยซัก 3 โซนก็ถือว่าโอเคละ ใน List ก็จะมี The Wizarding World of Harry Potter™ / JURASSIC PARK™ / MINION PARK และโซนใหม่ล่าสุด Super Nintendo World

ส่วนบัตรเข้านี่แนะนำให้ซื้อล่วงหน้ามาจากไทยเลย จะได้ไม่ต้องรอ อย่างของอัมซื้อผ่าน KKDAY ทั้งบัตรเข้าสวนสนุกและบัตร Express Pass 7 ไปเลย คนละ 5,108 บาท เปิด QR Code ให้เจ้าหน้าที่เค้าแสกนเข้าได้เลย ส่วนบัตร Express นี่แนะนำให้ปริ้นท์ไปนะ ในนั้นเค้าจะมีเวลาว่าเราจะเข้าแต่ละโซนได้กี่โมง

จองล่วงหน้าจากไทยที่ลิงค์นี้ >> https://bit.ly/UniversalJP

วันนี้เริ่มจากแต่งตัวมาเป็นธีมมินเนี่ยนเลยจ้า เหลืองอ๋อยกันมาแต่ไกลเลย มาถ่ายกับมินเนี่ยนก่อน แต่เราเตรียมเสื้อสีแดงมาด้วยนะ เพราะวันนี้เราจะแปลงร่างเป็นมาริโอ้ไปตะลุย Super Nintendo World กัน Here we go!!!

ยังไม่ทันไรก็โดนตกซะแล้ว คอลเล็คชั่นของ Super Nintendo World คือน่ารักมาก!! มีพร็อพให้เลือกเยอะสุดๆ นี่ก็สอยหมวกมาริโอ้มา ในราคาประมาณ 800 คุ้มสุดๆ มาเที่ยวใน Universal Studio Japan (USJ) ไม่อยากพกเงินสดมามาก ก็ใช้จ่ายในนี้ด้วย Krungthai Travel Card สะดวกสุดๆ เลยจ้า

เข้ามาถึงก็จะเจอมุมถ่ายรูปตรงนี้คือน่ารักมาก เรารอคิวประมาณ 35 นาที โดยเค้าจะถ่ายรูปให้ โดยพนักงานเค้าจะไม่ช่วยเราถ่ายรูปนะ อาจจะต้องฝากคนข้างหลังเรา แต่ว่าเค้าจะช่วยถ่ายและนัดคิววีดีโอให้ เสร็จแล้วก็จะได้รูปมา 2 ใบ ในราคา 2,000 เยน

สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ Express Pass การที่จองเข้าเล่นโซน Super Nintendo World ก็ทำตามนี้ได้เลยจ้ะ

เริ่มจากโหลด App USJ โดยจะเอาใช้ดูแผนที่ของเครื่องเล่น,ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก ที่สำคัญคือเอาไว้ดูเวลาที่รอเครื่องเล่นด้วย อันนี้สำคัญ เอาไว้บริหารเวลา หลังจากนั้นก็ให้ Register pass เข้าสวนสนุก ให้เลือก Timed Entry eTickets -> Register Park Passes >> Accept Terms หลังจากนั้นจะแสกน QR Code (สำหรับคนที่มาหลายคนอย่าลืมเพิ่ม Pass ตามจำนวนคนที่มาด้วย เวลาจองจะได้เข้าพร้อมกัน

หลังจากนั้นให้จองเข้า Super Nintendo World โดยเลือก Area Time Entry Ticket >> Get an eTicket >>Super Nintendo World >> ให้เลือกเวลาที่ว่างและเพิ่มชื่อคนที่จะเข้ารอบนั้นๆ เสร็จแล้วจะได้เข้า qr code สำหรับการเข้าโซนต่อไป (กดจองได้ก็ต่อเมื่อหลังแสกนบัตรเข้าสวนสนุกเท่านั้นนะคะ)

พอเข้ามาถึงคือน่ารักมาก เหมือนวาร์ปเข้ามาอยู่ในเกมส์มาริโอ้เลย ซึ่งคนก็เยอะมากตามความฮอตของโซนนี้จิงๆ นี่ต้องบอกว่ารีบจองเข้าโซนนะ เพราะวันไหนคนเยอะก็อาจจะได้เข้าอีกทีช่วงเย็นๆ เลย จะถ่ายรูปให้สวย อัมคิดว่าต้องช่วงกลางวัน ส่วนตัวละคร ก็มาครบเลย เจ้าหญิงพีช มาริโอ้ หลุยส์ น้องเห็ดโทด มาตามถ่ายรูปกันได้

ใครที่อยากมาต่อยอิฐเหมือนมาริโอ้ เค้าก็มีให้เล่นด้วยนะ แต่ถ้าอยากต่อยแล้วได้ยินเสียงปิ๊งๆ เอาไว้เก็บคะแนนและทำเควสในโซนนี้ ก็ต้องซื้อ Power-Up Band ซึ่งอันละ 4,200 เยน ก็แอบแพงอยู่นะ

ส่วนเครื่องเล่นหลักตัวแรกคือ Yoshi’s Adventure เป็นเหมือนรถรางมังกรโยชิ เป็นรถรางที่วิ่งไปช้าๆ อันนี้เด็กๆ เล่นสบาย แต่คิวโหดเหมือนกันนะ อันนี้อัมไม่ได้เล่น

ส่วนอีกหนึ่งเครื่องเล่นยอดฮิตก็คือ Mario Kart: Koopa’s Challenge™ อันนี้เหมือนเราได้ไปขับ Mario Kart อยู่ในเกมส์จริงๆ เค้าจะมีหมวกให้เราใส่ จะมองเห็นเป็นโปรเจคเตอร์ที่ทำให้เรามองเห็นไอเท็มและคู่แข่งของเรา ตอนแรกคิดว่าตัวรถเราจะขับได้เอง แต่ของจริงคือขับไม่ได้นะ แต่ก็สนุกดี ได้นั่งบนรถ ได้ยิงไอเท็ม เก็บคะแนนได้ด้วย อันนี้ไม่หวาดเสียว เด็กๆ ก็เล่นได้

ไปต่อกันที่โซน JURASSIC PARK™ กับเครื่องเล่น The Flying Dinosaur อันนี้ห้ามพลาดอีกเช่นกัน เป็นรถไฟเหาะแบบนอนเล่น 555 เหมือนจะดูสบาย แต่หวาดเสียวสุดๆ ถ้าไม่มี Express Pass ก็รอคิวประมาณ 90–120 นาที อันนี้คือหวีดมาก พอขึ้นไปเสร็จปุ๊ป รัดเข็มขัดเสร็จ เครื่องจะจับเรานอนคว่ำหน้าจ้า ความมันส์จะบังเกิด ณ ตอนนี้ รถไฟเหาะธรรมดาก็หวาดเสียวแล้ว แต่นี่นอนเล่น หมุมควงไปมา ต้องลองๆ สนุกสุด

ส่วนอีกอันในโซนนี้จะเป็น Jurassic Park The Ride รับประกันว่าเสื้อฝนก็เอาไม่อยู่ฮ่าๆ แต่เปียกมากเปียกน้อยอันนี้ว่ากันอีกที ส่วนของที่ระลึกก็น่ารัก แต่เสียดายอัมไปเปย์หมวกมาริโอ้แล้ว ฮ่าๆ

หาอะไรกินเติมพลังก่อนไปโซน The Wizarding World of Harry Potter™ ก็ต้องนี่เลย น่องไก่งวงย่าง ชิ้นใหญ่อลังการมาก แค่ 1,000 เยนเอง จัดไปคนละหนึ่งน่องนี่อิ่มเลย ถือว่าราคาไม่แรงเลยนะ จ่ายง่ายๆ ด้วย Krungthai Travel Card

หลังจากนั้นก็ไปตะลุยกันที่โซนแรก The Wizarding World of Harry Potter™ เป็นหนึ่งโซนที่ห้ามพลาดเลย เพราะเหมือนจำลองยกเอาฉากในหนังของแฮรี่พอร์ตเตอร์มาไว้ที่เลย ที่สำคัญคือเครื่องเล่น Harry Potter and the forbidden journey™ นี่เป็นเครื่องที่ฮิตมาก มาครั้งแรกถ้าไม่ได้ซื้อ Express ก็ควรยอมเสียเวลามาลองซักครั้งดูนะ เข้ามาที่ประตูด้านหน้าก็เจอกับสถานีรถไฟ King Cross เลยจ้า

ด้านในก็มีร้านรวงเหมือนอยู่ในหนังเลย มีของที่ระลึกให้ละลายเงินเยนเพียบ ทั้งผ้าคลุมบ้านต่างๆ ผ้าพันคอ ไม้กายสิทธิ์ คือไม้กายสิทธิ์จะมีบางรุ่นที่สามารถใช้เสกคาถาในจุดต่างๆ ได้ในโซนนี้ด้วยนะ เกร๋สุดๆ

ส่วนเมนูที่ห้ามพลาดสำหรับมักเกิลก็คงเป็น Butterbeer มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น มีทั้งแก้วปกติที่เป็นพลาสติกธรรมดา และแบบแก้วที่เก็บเป็นของที่ระลึกได้ ราคาก็เริ่มต้นตั้งแต่ 600–1,200 เยน ใครชอบแบบไหนก็ตามไปเก็บกันได้จ้ะ

ส่วนตัวปราสาทนี่ทำได้เนี้ยบม้ากก สวยเหมือนยกออกมาจากในหนังเลย มุมนี้น้ำจะนิ่งๆ สามารถถ่ายให้เห็นเงาสะท้อนปราสาทได้ด้วยจ้า

ตัวเครื่องเล่น Harry Potter and the forbidden journey™ บอกเลยสนุกมาก เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่คุ้มค่ากับการยืนรอคิว เหมือนเข้าไปอยู่ในหนังจริงๆ ตรงนี้ไม่อยากสปอยส์ ใครมาแล้วต้องมาเล่นนะจ้ะ ข้างในถ่ายรูปไม่ได้นะ

และอีกหนึ่งเครื่องเล่นสำหรับคนชอบความหวาดเสียว นั่นคือ โซน Hollywood กับ Hollywood Dream — The Ride รถไฟเหาะที่หวีดไม่แพ้ The Flying Dinosaur เลย ความพิเศษคือจะมีรถไฟเหาะแบบวิ่งไปข้างหน้า กับวิ่งถอยหลัง เปิดเพลงมันมาก ใครชอบรถไฟเหาะต้องจัด แต่ว่าเป็นการสุ่มนะ เลือกไม่ได้

ไปต่อกันที่โซนสุดท้ายนั่นคือ MINION PARK คือเป็นโซนที่น่ารักม้ากกก ตกแต่งได้น่ารักสุดๆ มินเนี่ยนมีอยู่เต็มไปหมดเลย มีทั้งร้านอาหาร มินิเกมส์ ล้วนแต่งเป็นมินเนี่ยนหมด ส่วนเครื่องเล่นของโซนนี้ Despicable Me Minion Mayhem ก็สนุกไม่แพ้กัน เด็กก็สามารถเล่นได้ จิงๆ จะออกแนว Transformer ที่สิงคโปร์แต่ไม่ได้หวาดเสียวมากขนาดนั้น ใครอยากเล่นแบบคนน้อยๆ แนะนำให้มาตอนเย็นๆ นะ

เล่นเสร็จใครรักมินเนี่ยนก็อย่าลืมแวะมาซื้อของที่ระลึกกันได้ที่ Minion Market Place มีตั้งแต่บะหมี่ ตุ๊กตา แก้วน้ำ ไปยันเสื้อผ้า ใครชอบนี่มีล้มละลายหมดตัวแน่นอน

จิงๆ ยังมีไปเล่นเครื่องเล่นอื่น อย่าง JAWS และ Spiderman ด้วยนะ ทำเวลากันสุดๆ ปิดท้ายวันด้วยโชว์ ช่วงนี้จะเป็นโชว์ Frosty’s Electric Snow Party คือมันส์มาก มีคาแรคเตอร์ต่างๆ ออกมาเต้น มีDJ เปิดเพลง ทุกคนรอบตัวเต้นกันไปพร้อมกันสุดๆ จากที่หนาวๆ หายหนาวเลย ปิดท้ายถ่ายรูปกับต้นคริสมาสต์ยักษ์ที่สูงกว่า 30 เมตร สำหรับคนที่ถามว่า Express Pass คุ้มมั้ย เอาในเรื่องเวลา ก็ถือว่าช่วยลัดคิวไปได้เยอะ ต่อเครื่องเล่นดังๆ อาจจะรอแค่ 10–15 นาทีเท่านั้น เพราะถ้าไม่มี ต้องรอทีละ 60–90 นาทีเป็นอย่างน้อย แต่แนะนำว่าให้เลือกมาก่อนว่าชอบเล่นเครื่องไหน อาจจะไม่ต้องซื้อถึง Express 7 เอาแค่ Express 4 ก็พอจ้า

Universal Studios Japan
เวลาเปิด-ปิด : ทั่วไป
09:00–19:00 น.
พิกัด :
https://goo.gl/maps/b7pEFuvQWX3PejybA
การเดินทาง นั่งรถไฟลงสถานี Universal City แล้วเดินไปอีก 5 นาทีก็ถึง

เติมพลังให้หายเหนื่อยที่ Shabu Sai บุฟเฟ่ต์ชาบู สาขา Citywalk หน้า USJ เลย ราคาไม่แรงเริ่มต้นคนละ 1,868 เยน

เล่นเครื่องเล่นกันมาเหนื่อยๆ ก็ปิดท้ายวันที่สองกันด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบูเจ้าดัง Shabu Sai สาขา Citywalk ที่อยู่ด้านหน้า Universal Studio Japan (USJ) เป็นชาบูหมู เนื้อ ไก่ มี 2 ราคา 1,868 เยน (มีเนื้อ 1 ชนิด หมู 2 ชนิด) / 2,308 เยน (มีหมูพรีเมียม 1 ชนิด เนื้อ 2 ชนิด หมู 2 ชนิด) อยากได้ซูชิไม่อั้น เพิ่มอีกคนละ 550 เยน น้ำรีฟิลคนละ 328 เยน

โดยรวมอร่อยอยู่เลยนะ พวกหมู เนื้อนี่คุณภาพใช้ได้เลย น้ำซุปมี 4 แบบ แนะนำสุกี้น้ำดำ จุ่มไข่ดิบอร่อยเลย น้ำจิ้มโอเค ซูชิข้าวเยอะไปนิด แต่ได้อยู่ ส่วนผักเดินไปตักเอง ของหวานมีให้ทำแพนเค้กเองได้ มีไอติม Soft Serve มื้อนี้ก็จ่ายสบายๆ ด้วย Krungthai Travel Card อิ่มจนแทบกลิ้งกลับโรงแรม

Shabu Sai สาขา Citywalk
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 11.00–23.00 น.
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/FodVCmhU4v5kwYBR7
การเดินทาง
นั่งรถไฟลงสถานี Universal City แล้วเดินไปอีก 5 นาทีก็ถึง

เปลี่ยนปราสาทโอซาก้าให้กลายเป็นรันเวย์ ชี้เป้าจุดถ่ายรูป IG Shot คู่กับปราสาทโอซาก้าพร้อมพิกัด

เที่ยวโอซาก้าทั้งทีถ้าไม่ได้มาถ่ายกับแลนด์มาร์คอย่าง Osaka Castle เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง แต่ถ่ายมุมเดิมๆ ยืนตัวตรงเหมือนถ่ายรูปติดบัตรมันจะน่าเบื่อ ป้าเลยรวมหามุมฮิตถ่ายยังไงไม่ให้ติดคนมาเป็นไอเดียเอาไปลองถ่ายทริปโอซาก้าครั้งหน้าจะได้มีรูปสวยๆ ลง IG อวดเพื่อนแน่นอน!!

(ซ้าย) มุมสวนญี่ปุ่น Japanese Garden มุมยอดฮิต IG Shot มุมนี้ได้เงาสะท้อนน้ำปราสาทโอซาก้าบวกวิวสวนญี่ปุ่น ดูองค์ประกอบลงตัว แต่ปัจจุบันกลายเป็นจุดทัวร์จีนมาลงถ่ายรูปกันแล้วเพราะฉะนั้นอย่ามาช่วงเที่ยงๆ เพราะทัวร์กำลังพีคควรมาช่วงเช้าหรือเย็นๆ เลยจะดีกว่า หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ช่วงหลังบ่ายยังพอได้อยู่

พิกัด : goo.gl/maps/FQoQYjmWZc28R1Sc9

(ขวา) มุมหินคู่หน้าปราสาท มุมนี้ไม่ยาก ตัดปัญหาคนด้านหลังรกๆ ทิ้งให้มีแค่เรากับปราสาทโอซาก้าเพราะมีก้อนหิน พุ่มไม้บังคนแล้ว จะถ่ายได้มุมหน้าตรงของปราสาทพอดี โพสท์ท่าสวยๆ ก็ได้ภาพเด็ดๆ แล้วจ้า

พิกัด : goo.gl/maps/fV2rrb8T9Gy5tGkx6

สำหรับคนที่มี Osaka Amazing Pass นี่สบ้ายถือบัตรเบ่งได้เข้าชมปราสาทกันฟรีๆ ประหยัดค่าเข้าไป 600 เยน แนะนำให้ขึ้นลิฟท์ไปชั่นบนก่อน แล้วเดินขึ้นไปชมจากชั้นบนสุดค่อยเดินไล่ลงมาที่ชั้นล่าง เป็นการออมแรงจ้า ส่วนชั้นบนสุด แม้ไม่เป็นมุมถ่ายคู่แต่ก็แนะนำให้ลองถ่ายดูเพราะที่นี่สามารถขึ้นมาชม Shachihoko ได้อย่างใกล้ชิดโดยหัวเป็นเสือ ตัวเป็นปลาคาร์ฟ เป็นสัตว์ในตำนานที่ทุกปราสาทต้องมีเค้ามีความเชื่อว่า Shachihoko จะช่วยบันดาลให้ฝนตกได้ ซึ่งจะช่วยดับไฟเวลาเกิด เพลิงไหม้ปราสาทนั่นเอง

(ซ้าย) มุมสะพาน Gokurabashi เป็นอีกหนึ่งมุมฮิต ที่ถ้าไม่ได้มาเช้าๆ คนล้นหลามอย่างแน่นอน ปกติเค้าจะถ่ายกันบนสะพานบ้าง ด้านล่างบ้างดังนั้นป้าเลยลองหนีคนโดยให้แบบไปยืนแถวๆ เกือบตรงกลางสะพานแล้วมองออกไปเผลอๆ ส่วนช่างภาพย่อตัวลงนิด เอาพุ่มไม้เป็นฉากหน้าและให้แนวสะพานบังคนที่เดินไปเดินมา แค่รอจังหวะไม่มีคนมายืนใกล้ๆ แบบกดชัตเตอร์โลด

พิกัด : goo.gl/maps/716sutRrSB7wFvPh8

(ขวา) มุมเรือโกซะบุเนะคู่กับปราสาทโอซาก้า อันนี้เห็นตอนกำลังเดินกลับ ใครที่มี Osaka Amazing Pass นี่ขึ้นเรือได้ฟรีเลยนะประหยัดไปได้อีก 1,500 เยน ส่วนใครไม่มีก็ถ่ายรูปเอาเนาะ เดินรอจังหวะเรือผ่านมาอยู่ในเฟรมคู่กับปราสาทโอซาก้าพอดี ก็สวยไปอีกแบบจ้า ให้เดินเลยท่าเรือ Osakajo Gozabune ไปประมาณ 300 เมตร จะมีมุมที่ถ่ายตัวปราสาทเห็น 2 ด้านพอดี

Osaka Castle
เวลาเปิด-ปิด : 9:00–17:00 น.
พิกัด :
goo.gl/maps/8D2zytVfyLW4Cwa66

Izakaya Toyo ร้านอิซากายะคิวยาว ร้านดังจาก Netflix street food ราคาไม่แรง ของคุณภาพดี คุ้มค่าการรอคอย

ลิสต์ร้านอาหารของเราในโอซาก้า (Osaka) ที่ใส่ดอกจันทร์ไว้นั่นคือ Izakaya Toyo ร้านอิซากายะยืนกินเจ้าดังจาก Netflix street food ที่ใครๆ ก็มาต่อคิวกินกัน นี่หลังร้านเปิดได้ซักพัก มาถึงก็ต้องต่อคิวประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วจ้า แต่บอกเลยว่าคุ้มมาก

หลายคนคงคุ้นหน้า ลุงโทโย เพราะเห็นกันในทุกรีวิว ใครที่มากินก็รอจังหวะที่แกย่างปลา เทคนิคสุดเร้าใจในเมนู Signature แก้มปลาทูน่าเบิร์นไฟ ที่ลุงแกใช้มือเปล่าๆในการทำ เรียกเสียงฮือฮาจนต้องทุกคนต้องยกกล้องขึ้นถ่ายวิดีโอลีลาลุงไว้

ที่สำคัญคือราคาดีงาม วัตถุดิบสุดคุ้ม นี่ไปกัน 4 คน กินแหลกยังกับพายุ ยังแค่หารกันคนละ 7–800 บาทเอง แล้วสั่งเมนูไม่ยากแม้ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น พนักงานมีคนพูดภาษาอังกฤษได้ เค้าจัดเซ็ทมาให้แล้วตามจำนวนคนแล้ว เริ่มต้นที่ 2,400 เยน ก็จะเป็น ซาชิมิส่วนอากามิ + ข้าวห่อสาหร่ายโปะด้วย อิคุระและอูนิ หรือถ้าอยากได้ส่วนชูโทโร่หรือโอโทโร่ ก็เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แล้วในแต่ละวันจะมีเมนูพิเศษด้วย อย่างวันที่เราไปมี Sashimi หอยแครงญี่ปุ่น ราคาหลักร้อยเยน คือคุ้มมาก ถูกกว่าไปกินตลาดปลาอีก!!

Toyo Izakaya
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร-พุธ-ศุกร์ 13.00–18.30 น. / วันเสาร์ 12.00–18.30 น. (หยุดวันจันทร์ / อาทิตย์ / พฤหัส)
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/U3seJvPBEDaYQKw4A
การเดินทาง นั่งรถไฟลงสถานี Kyobashi แล้วเดินไปอีก 5 นาทีก็ถึง

Sumiyoshi Taisha หนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ไปถ่ายรูปกับสะพานโค้งสีแดงที่ติด 1 ใน 100 วิวที่สวยที่สุดในคันไซ

ใครที่หาที่เที่ยวโอซาก้าใหม่ๆ แบบไม่แมส ป้าแนะนำมาที่ศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha เลย ที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันด้วย แค่ทางเข้าก็ดูสวยงามอลังการเสาโทริแบบแท่งหิน ถ่ายรูปสวยไปอีกแบบค่ะ

ส่วนไฮไลท์ของที่นี่คือสะพานโค้งสีแดง Sumiyoshi Sorihashi เป็นสะพานที่ยาวถึง 20 เมตร สูง 4.4 เมตร วิวนี้ติด 1 ใน 100 วิวที่สวยที่ในภูมิภาคคันไซเลยนะ พอดีป้ามาช่วงกลางวัน เลยอาจจะเห็นเงาสะท้อนสะพานบนผิวน้ำน้อยไปนิด

ตัวโครงสร้างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ เป็นการก่อสร้างสถาปัตยกรรม ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาตร์ของการก่อสร้างศาลเจ้า ที่เรียกว่า Sumiyoshi-zukuri และที่นี่นอกจากจะเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแล้ว ที่นี่ยังเป็น Power Spot สุดโด่งดังของโอซาก้า โดยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแข็งแกร่ง ถ้าใครได้มาสักการะก็ต้องได้ผลดีกลับไปแน่นอน

ส่วนวิธีสักการะก็คือหยอดเหรียญอธิษฐานลงในตู้บริจาค >> โค้งคำนับ 2 ครั้ง >> ปรบมือ 2 ครั้ง >>โค้งคำนับอีก 1 ครั้งเป็นอันเสร็จ

นอกจากนี้ด้านศาลเจ้า เราจะเห็นคนญี่ปุ่นเค้ามาหาก้อนหินเสริมโชคกัน จะเป็นลานก้อนหินเล็กๆ ที่จะมีตัวอักษร “โกะ (五)” “ได (大)” “ริกิ (力)” กระจายอยู่ทั่วลานหินซึ่งเค้าบอกว่า ถ้าเราหาพบทั้ง 3 อันแล้วเก็บรักษาเอาไว้เป็นเครื่องรางได้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

Sumiyoshi Taisha
เวลาเปิด-ปิด : 6.00–17.00 น.
วิธีมา :
จากสถานี Tennoji นั่งรถรางจากสถานี Tennojiekimae ลงสถานี Sumiyoshi
พิกัด : https://goo.gl/maps/UZQvayxvMLCkDnnm6

เพิ่มดีกรีความตื่นเต้น ชมวิวเมืองโอซาก้ามุมสูงแบบ 360 องศาย่านอุเมดะ ขึ้นชิงช้าสวรรค์ Hep Five แลนด์มาร์คสีแดงแห่งโอซาก้า

ใครผ่านไปผ่านมาย่านอุเมดะคงคุ้นชิ้นกับชิงช้าสวรรค์สีแดงอันเด่นสง่าตระการตาโดย Hep Five ที่นี่เค้าจะเป็นห้างสรรพสินค้า วัยรุ่นญี่ปุ่นมาเดินเพี้ยบ มีทั้งร้านให้ช้อป มีทั้งร้านของกินเยอะแยะเลยในห้าง แต่ภารกิจวันนี้เรามาท้าความสูงขึ้นชิงช้าสวรรค์ชมวิวเมืองโอซาก้ากันจ้า

มาถึงก็กดลิฟท์ขึ้นชั้น 7 มาเลย ซึ่งถ้าใครมี Amazing Osaka Pass ก็เบ่งได้เข้าฟรีไปเลย ประหยัดไปได้ 500 เยน ตัวชิงช้าสวรรค์เค้ามีทั้งหมด 52 กระเช้า จะนั่งกี่คนก็บอกเค้าได้ แต่หนึ่งกระเช้านั่งได้ 4 คน

ภายในตัวกระเช้าก็มีแอร์และฮีตเตอร์พร้อม รอบนึงก็ประมาณ 15 นาที ถามว่ากระเช้าโคลงเคลงมั้ย ถือว่าปลอดภัยเลยค่ะ ไม่โคลงเคลงไปมา เสียดายอย่างเดียวกระจกมันไม่ค่อยสะอาดไปนิด ถ้าตัวกระจกใสๆ นี่สวยเลย มาช่วงแดดร่มลมตกถือว่ากำลังดีงามไม่ร้อนไป

Hep Five Ferris Wheel
เวลาเปิดปิด : 11.00–22.45 น. (รอบสุดท้าย)

พิกัด : https://goo.gl/maps/94mmwpcxmAhz2baX9

เที่ยวย่านชินเซไก (Shinsekai) แวะชมหอคอยซือเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower) สัญลักษณ์ของโอซาก้า ชมวิวและสีสันยามค่ำคืน

สำหรับใครที่ชอบแฮงค์เอาท์ พร้อมตะลุยย่านกินดื่มแห่งโอซาก้า แนะนำให้มาย่านชินเซไก (Shinsekai) เต็มไปด้วยร้านอิซากายะเต็มไปหมด แถมโดดเด่นด้วยป้ายไฟสีสันสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของโอซาก้า มีร้านอาหารดังๆ ไม่แพ้ย่านซินไชบาชิเลย นอกจากนั้นยังมีแลนด์มาร์คอย่าง หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ที่เคยแสดงถึงความเจริญของโอซาก้าในสมัยก่อนด้วยประดับไฟสีสันจนใครๆ ก็มาถ่ายรูปกัน

ชินเซไก (Shinsekai)
พิกัด :
https://goo.gl/maps/JR8rrm3e6fiBbTgK7
การเดินทาง
เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Ebisucho สาย Sakaisuji Line (Exit 3)
เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuen-mae สาย Midosuji Line (Exit 5)
เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Shin-Imamiya สาย JR หรือ Nankai (East Exit)

KURA Sushi ร้านซูชิสายพาน 100 เยน ถูกและดี มีสาขาถึง 521 สาขา

แวะกินข้าวปิดท้ายกันที่ Kura Sushi เป็นร้านซูชิราคาถูก ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงจานละ 100 เยน เท่านั้นค่ะ โดยร้านคุระซูชินั้นเขามีถึง 521 สาขาเลยค่ะ โดยมีสาขาที่อเมริกา 25 สาขา และไต้หวัน 29 สาขาค่ะ

ตัวซูชิเราก็สามารถกดเลือกสั่งจาก Tablet หรือ เลือกจากบนสายพานก็ได้ ตัวซูชิถือว่าราคาไม่แรง คุณภาพใช้ได้เลย พวกอุด้ง ราเมง ซาชิมิก็มีนะ และที่ร้านเค้าจะมีกิมมิคด้วย เมื่อทานได้ครบ 5 จาน แล้ว ให้เราเอาจานที่ทานเสร็จแล้วใส่ลงไปในช่องใส่จานแล้ว ลุ้นของที่ระลึกได้ด้วยจ้า

Kura Sushi สาขา Shinsekai
เวลาเปิด-ปิด : 9:00–21:00 น.
พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/PSFXXJfyXqCJSn5B9

เที่ยวโอซาก้า (Osaka) บินสะดวก ราคาประหยัดต้อง Vietjet Air แค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ บินตรงจากเชียงใหม่ แค่ใช้บัตร Krungthai Travel Card จองตั๋วเครื่องบิน รับส่วนลดสุดคุ้ม!!

เที่ยว โอซาก้า (Osaka) ง่ายมาก แค่กรอกฟอร์มในเว็บ Visit Japan ให้ครบเป็นอันจบ รอบนี้ป้าบิน Vietjet Air จองสะดวก ราคาดีอยู่นะ ไปกลับประมาณหมื่นนิดๆ เลือกได้ 2 เส้นทาง

  1. เชียงใหม่ — โอซาก้า มีบินตรงจากเชียงใหม่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวัน อังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ และ อาทิตย์ ส่วนขากลับโอซาก้า — เชียงใหม่ จะมีทุกวัน จันทร์, พุธ, ศุกร์ และ อาทิตย์
  2. เส้นทางเปิดใหม่ กรุงเทพ-ไทเป-โอซาก้า โดยบินตรงจากกรุงเทพ via ไทเป และไปลงโอซาก้าค่ะ

ที่นั่ง Vietjet Air ถือว่าเป็นไฮไลท์อยู่นะ ที่นั่งค่อนข้างกว้าง ขนาดแฟนตัวใหญ่ๆ ขายังยืดได้เหลือๆ เอนเบาะได้สบาย จองได้ทาง มีที่เสียบปลั๊กชาร์ทแบตมือถือได้ ที่รองคอปรับล็อคคอได้ นอนชิวๆ เลย ตื่นมาใครหิวแนะนำสั่งอาหารทานได้ กะเพราไก่คือรสชาติจัดจ้านมาก กินแล้วตื่นเลย จองได้เลยที่ https://th.vietjetair.com

ตอนนี้เค้ามีแจกโค้ดส่วนลดสำหรับจองบนเว็บไซต์ของสายการบินโดยตรงด้วยนะคะ แค่กรอกโค้ด JPN500 ได้ส่วนลด 500 บาท/การจอง สำหรับจองเที่ยวบินไปญี่ปุ่น ในเส้นทาง Osaka หรือ Fukuoka จองภายใน 31 มี.ค. 2024 เดินทางภายใน 30 มิ.ย. 2024

มีทริคซื้อตั๋วเครื่องบินราคาคุ้มๆ แค่จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Online Travel Agent จ่ายด้วยบัตร Krungthai Travel Card รับส่วนลดสุดคุ้มไปเลยจ้า เมื่อจองเที่ยวบินหรือที่พักผ่าน Traveloka ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ลูกค้าใหม่ Traveloka รับส่วนลด 20% (สูงสุด 500 บาท) หมดเขต 31 ธ.ค. 66

Krungthai Travel Card บัตรคู่ใจคนชอบเที่ยว!! จะทริปไหนก็ใช้สะดวกตั้งแต่เริ่มแพลนทริป!! แถมมี Privilege ทั้งส่วนลด ทั้งแจกฟรีเพียบ

ต้องบอกว่าทริปญี่ปุ่นรอบนี้ สะดวกสุดๆ ก็เพราะมี Krungthai Travel Card ดีงามตั้งแต่เริ่มแพลนทริป!! จะจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม กิจกรรม หรือเช่ารถขับล่วงหน้าทั่วโลกสะดวกเว่อร์รับส่วนลดคุ้มๆ จาก Online Travel Agent เจ้าดัง! / ทุกการเดินทางปลอดภัยหายห่วง รับฟรี!ประกันการเดินทาง สูงสุด 10 วัน แต่ถ้าซื้อเพิ่มอีกก็มีโปรโมชั่นสุดคุ้ม / ฟินยิ่งกว่าใคร เดินทางไปสนามบินแบบ Exclusive บริการรับ-ส่งสนามบินในราคาสุดคุ้ม ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดวนรถให้เสี่ยงตกเครื่อง / พักผ่อนก่อนบิน บริการห้องรับรองพิเศษสุดชิวก่อนขึ้นเครื่อง รับส่วนลดแบบจุกๆ

ทริปจบความคุ้มไม่จบ บัตรเดบิตกรุงไทย วีซ่า / บัตร Play และ Krungthai Travel Visa Card เพียงใช้จ่ายในต่างประเทศตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป และชำระผ่านบัตรฯ
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 66–31 ธ.ค. 66 รับโค้ดส่วนลด CABB VIP Taxi มูลค่า 500 บาทไปเลย!! แลกรับโค้ดส่วนลดที่
www.vthgservice.com

--

--

วาไรตี้ ชีวิตป้า..ช้อปปิ้ง..กิน..เที่ยว คลิกเดียว..ครบหมด!!