รีวิว เที่ยวไทเป 4 วัน 3 คืน ชี้เป้าชิม ช้อป แชะ 10 แลนด์มาร์ค-ร้านดัง ที่ไม่ควรพลาด!
เที่ยวไทเปไม่ซ้ำใคร ใครที่เบื่อไทเปแบบเดิมๆ ลองออกไปตามหามุมลับๆ หาที่เที่ยวใหม่ๆ กันดีกว่า ขนาด Ximending ย่ายท่องเที่ยวที่ไปเดินบ่อยที่สุด ยังมีมุมลับแอบอยู่ หรือลองออกไปชิวใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ดูไร่ชาที่เมือง Pinglin หรือจะเที่ยวย่าน Dadaocheng ที่ได้บรรยากาศสุดวินเทจ แถมมีวัดขอคู่ด้วยนะเธ้อ นี่มัดรวม 10 แลนด์มาร์คที่ว่าฮิตหรือไปพิชิตมุมลับๆ ไม่ว่าสถานที่เที่ยวหรือร้านดังที่คนไต้หวันชอบไปมาให้เรียบร้อยแล้ว มีเวลา 4 วัน 3 คืนก็เที่ยวไทเปตามเช็คลิสต์ได้หมด!!
Jetfi ไม่ต้องซื้อซิมเปลี่ยนให้เสียเวลา เที่ยวไทเปสบายๆ มา 2 คนเช่า Wi-Fi Router ตั้งแต่ที่สนามบินเลยดีกว่า เริ่มต้นวันละ 130 บาท
บินมาถึงสนามบินเถาหยวน อุปกรณ์ที่จะขาดไม่ได้เวลา เที่ยวไทเปนั่นก็คือ Internet ปกติไป 2 คนเปิดเกือบ 600 ละ นี่เที่ยว 3 วัน 2 คืน เช่า Wi-fi Router ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีไม่แพ้กัน ไม่ต้องมานั่งถอดซิมเข้า-ออก เปิดเครื่อง ต่อ Wifi ใช้ได้เล้ยย ของแถมราคามิตรภาพมาก วันละ 130 บาท เครื่องนึงใช้ต่อ 2 คนกับแฟนสบายๆ ที่สำคัญเค้ามีโหมดแปลภาษาที่เด็ดมาก กดปุ่มค้างพูดไทยไป แปลออกมาเป็นเสียงภาษาจีนเลยเธ้ออออ โคตรดี พูดจีนไม่ได้ก็เที่ยวไทเปสบ้ายยย ใครอยากลองแวะไปดูได้ที่บูทเบอร์ 4 หลังจากออกผ่าน ตม. มาเดินมาทางขวาสุดเลยจ้า
Grand Mayfull Hotel Taipei โรงแรม 5 ดาวย่าน Dazhi หนึ่งในสิบโรงแรมที่ได้รางวัล “Star Hotel 2019”
เที่ยวไทเป รอบนี้พักที่ Grand Mayfull Hotel Taipei นอนหรูอยู่สบายสไตล์ 5 ดาว โรงแรมนี้เค้าติดอันดับ 1 ใน 10 โรงแรมที่ได้รางวัล “Star Hotel 2019” ด้วยนะแม่ โรงแรมอยู่เขต Dazhi ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ย่ายนี้ดีมากค่อนข้างสงบไม่พลุกพล่าน พนักงานบริการดีทุกคนตั้งแต่เดินเข้าโรงแรม แม้ว่าโรงแรมจะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่ทางโรงแรมมีรถไว้บริการรับ-ส่งลูกค้าฟรี ระหว่างโรงแรมถึงสถานีรถไฟฟ้า MRT Jiannan Road Station (Exit 2) ด้วยนะ รอบๆ โรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ เดินไปห้างได้มีทั้ง Carrefour / ห้าง Miramar ที่มีชิงช้าสวรรค์ก็เดินไปได้
ส่วนตัวห้องพักคือที่สุด เตียงดูดวิวญาณมาก ห้องใหญ่โตอลังการ ห้องอาบน้ำแยกโซนเปียก — แห้ง มีอ่างอาบน้ำ ชักโครกเป็นแบบอัตโนมัติด้วยจ้า มีโต๊ะทำงาน มีขนมให้กินฟรีเติมทุกวัน!! ที่สำคัญคือวิวดีม้ากกกก
Grand Mayfull Hotel Taipei
Website : https://www.grandmayfull.com
Google Maps : https://g.page/grandmayfull?share
เที่ยวไทเปแบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวหลง ใช้บริการ Tripool รถรับส่งจากที่พักไปยังสถานที่เที่ยว รวดเร็วเหมือนรถ Taxi แต่จ่ายในราคา Shuttle Bus
เท่าที่ป้าเคยเที่ยวไทเป และประสบมาในกรณีเรียก Taxi ที่ไต้หวัน คันไหนพูดอังกฤษได้ก็โชคดีไป แต่ถ้าพูดไม่ได้นี่ยาวแน่นอน เพราะเค้าพูดภาษาจีนเป็นหลักจ้า สื่อสารกันยากมาก แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราสามารถนัดรถรับ-ส่งมารับเราได้ถึงหน้าโรงแรม แถมพูดภาษาอังกฤษสื่อสารได้ เรียกได้ไวเหมือน Taxi แต่จ่ายราคาเบาๆ เหมือนนั่ง Shuttle Bus ใครที่พาคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่มาเที่ยวไทเป แนะนำให้ลองใช้ Tripool โลด สามารถนัดรับพาไปที่ไหนก็ได้ในไต้หวันได้ตั้งแต่ 6.00 -22.00 น. แนะนำควรมากันหลายๆ คน เพื่อช่วยกันหารเพื่อความคุ้มค่า ส่วนการจองเค้ารับจองผ่านทางออนไลน์ภายใน 14.00 น. ก่อนการรับส่งหนึ่งวัน ใครสนใจลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย : http://www.tripool.app
Yong-Kang Beef Noodle ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นในตำนานที่คนไต้หวันชอบกิน ย่าน MRT Dongmen
มาถึงไต้หวันทั้งทีนอกจากชาบูหม่าล่า อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสไตล์ไต้หวัน ส่วนร้านที่เป็นทีเด็ดชนิดคนไต้หวันต้องมาต่อคิวกันนั่นก็คือ ร้าน Yong Kang Beef Noodle ร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1963 วิธีเดินทางมาก็ไม่ยาก นั่งมาลงที่สถานี MRT Dongmen เดิน 5 นาทีถึงเลย
เมนูหลักๆ ที่ดัง ก็คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เค้าจะมีให้เลือกซุปเมนูอาหารที่ขายหลักๆคือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวตุ๋นหรือก๋วยเตี๋ยวเอ็นวัว ส่วนใครอยากกิน 2 แบบผสมกันก็ได้ เส้นหนุบหนับ เนื้อให้มาชิ้นใหญ่มาก กินชนมเดียวอิ่มเลยจ้า ราคาแอบแรงนิดๆ อยู่ที่ชามละ 240+ บาท
Yong Kang Beef Noodle
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11.00–21.00 น. (ปิดทุกวันพฤหัส)
Google Maps : https://goo.gl/maps/5DZvb1Kc6Jbmcimw5
WALK in TAIWAN เที่ยวไทเปแบบ Private พาเดินทัวร์ Ximending ตามล่าหามุมลับที่ยังไม่เคยไป
หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็มาเดินย่อยกันซักหน่อย ค่ำวันนี้เราเลือกแวะมาเดินเล่นกันที่แหล่งรวมวัยรุ่นแห่งไทเป นั่นก็คือ Ximending นั่นเอง ปกติมาเดินเองก็จะเดินเล่น ช้อปปิ้งอยู่โซนเดิมๆ เลยลองมาใช้บริการของ WALK IN TAIWAN พาเดินทัวร์ลัดเลาะหามุมและร้านลับๆ ใน Ximending กันซักหน่อย
เริ่มกันที่ Ximen Red House กันก่อน ปกติที่นี่เคยมาเดินถ่ายรูปลง IG ข้างหน้าแล้วก็ไปเดินเล่นต่อที่อื่น วันนี้ไกด์เค้าเลยเล่าประวัติความเป็นมาของที่นี่ให้ฟังซะเลย คือตึกแดงซีเหมินสร้างมาอายุกว่าร้อยปีแล้ว เมื่อก่อนเป็นตลาดแห่งแรกในเมืองไทเป ที่สร้างและบริหารงานโดยรัฐบาล ออกแบบโดย คนโด จูโร่ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นประจำทำเนียบรัฐบาลญี่ปุ่นที่ปกครองไต้หวันในสมัยนั้น
WALK in TAIWAN
เว็บไซท์ : https://www.taipei-walkingtour.tw/en001
เวลาทำการ : 10.00–19.00 น.
ปัจจุบันปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ของแฮนด์เมดสวยๆ งานสร้างสรรค์เพียบบ ใครที่ชอบงานติสๆ นี่ต้องถูกใจ
อย่างร้านนี้กระเป๋าเก๋มาก แนวแบบ Freitag แต่มาปรับแบบให้เข้ากับ Lifestyle ของคนไต้หวัน เน้นใช้ผ้าแคนวาสมีทำช่องใส่ร่ม ช่องใส่ขวดน้ำ สายปรับได้หลายระดับ งานดีม้ากกก ยังไงใครสนใจลองเข้าไปเดินดูกันได้น้า
Ximen Red House
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ 11.00–21.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
Google Maps : https://goo.gl/maps/hKautkeoJvAkjfb27
Taipei Tianhou Temple แวะมาไหว้เจ้าแม่เทียนหัวขอพรเรื่องความปลอดภัย มุมถ่ายรูปตอนกลางคืนสวยงามมาก
Taipei Tianhou Temple เป็นหนึ่งวัดที่เรามักเดินผ่านกันไปมาประจำแต่ไม่เคยเข้ามาเลย ไกด์เลยพาลองแวะเข้ามาดู ตอนกลางคืนโคมไฟสวยม้ากกก ได้มุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่ ส่วนใครสายมูเตลู แวะเข้ามาไหว้พระขอพรกับเจ้าแม่เทียนหัว เป็นเทพเจ้าที่คอยปกปักษ์รักษาผู้คน โดยเฉพาะชาวเรือหรือชาวประมงที่นิยมสักการะท่านก่อนออกเรือ ดังนั้นคนที่จะมาสักการะส่วนใหญ่จะมาขอพรเรื่องความปลอดภัย
Taipei Tianhou Temple
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 6.00–22.00 น.
Google Maps : https://goo.gl/maps/Vn1exrZfwjqkBgBi7
Xing Fu Tang ร้านชาไข่มุกที่มาแรงที่สุดในไต้หวัน
เมื่อก่อนตอนมาเที่ยวไทเปแรกๆ เห็นแถวคิวยาวๆ แบบนี้ก็ต้องคิดว่าไก่ทอด Hot Star แหงๆ แต่ที่ไหนได้ ปีนี้มีร้านชาไข่มุกที่ใครก็ต้องไปต่อคิวกินอย่าง Xing Fu Tang ใน Ximending นี่มีไม่ต่ำกว่า 4–5 ร้าน อยู่แทบจะทุกมุม ส่วนใครที่อยากไปลองชิมก็ลองไปต่อแถวกันดูได้
ที่ร้านนี้เค้าจะโชว์ตั้งแต่กระบวนการผลิตไข่มุกตั้งแต่เริ่มจนเอามาใส่ถ้วย มันน่ากินมากแกร เมนูไฮไลท์ที่ใครต้องไปลองนั้นเป็น Brown Sugar Boba Milk ทำกันมาใหม่ๆ เลยจ้า รสชาติมันนมมาก ได้กลิ่นน้ำตาลไหม้หอมๆ ไข่มุกนี่หนุบหนับดี เสียอย่างเดียวเลือกความหวานไม่ได้ แก้วนึงประมาณ 60 บาท แบ่งกันทาน 2 คนก็จะกำลังดี
Xing Fu Tang (สาขา Ximending)
Google Maps : https://goo.gl/maps/sHea79f5jZgSLxJNA
Wuchang ถนนแห่งกราฟฟิตี้ที่ซ่อนตัวใน Ximending แหล่งรวมสตรีทอาร์ทแนวๆ สวยๆ
อันนี้เพิ่งรู้เลยว่าที่เที่ยวไทเป ก็มีย่านที่รวมกราฟฟิตี้สวยๆ อยู่แถว Ximending ด้วย เพราะเคยเดินแต่มุมเดิมๆ รอบนี้ไกด์พาเราเดินมายังแถวถนน Wuchang ที่ซ่อนตัวอยู่ย่านถนนแห่งโรงหนังของ Ximending
งานสตรีทอาร์ทสวยๆ เพียบ วาดกันขึ้นไปบนตึกเลย นี่ยังนึกเสียดายถ้ามาช่วงกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ แม้แต่ Alex Face กราฟฟิตี้ชื่อดังแห่งเมืองไทยก็ยังมาฝากผลงานกันไว้ที่นี่ด้วย ใครมีเวลาลองแวะมาเดินเล่นย่านนี้กันได้นะคะ
Wuchang Road
Google Maps : https://goo.gl/maps/wydSq5ULPUtZLYTx5
หนีความวุ่นวายในเมือง แวะเที่ยว Pinglin (ผิงหลิน) เดินเล่นชุมชนโบราณ ชมไร่ชาบนเนินเขา ชิมชาออร์แกนิคที่มีรางวัลระดับประเทศการันตี
ใครชอบผลิตภัณฑ์ชาต่างๆ อยากออกไปเสพวิวธรรมชาติ ชมไร่ชาสวยๆ ซัก 1 วัน ป้าแนะนำให้ลองออกมาเที่ยวที่เขต Pinglin (ผิงหลิน) เมือง New Taipei City แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ จากไทเปเท่านั้น ที่นี่เค้าจะเน้นปลูกชากันตามเนินเขา ที่สำคัญอากาศเย็นตลอดปี อย่างแม่น้ำที่ไหลผ่านนี่ถ้าสังเกตุดีดี น้ำใสมาก มองเห็นตัวปลาเลย
เริ่มต้นจากเดินเล่นในย่านเมืองเก่า Pinglin Old Street ก่อน ตรงนี้เค้าก็จะอนุรักษ์ตึกสมัยโบราณที่ใช้หินจากแม่น้ำสมัยก่อนมาสร้างเป็นบ้านเรือน มีร้านขายของแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะ ซาลาเปาแฮนด์เมด ตระกร้าสานที่ทำจากไม้ไผ่ นั่งมาไกลๆ มาถึงก็แวะชิมไข่ต้มชาอันขึ้นชื่อของที่นี่กันซะก่อน
Just Pinglin 坪感覺 คาเฟ่คูลๆ แห่งย่าน Pinglin Old Street อาหารดีงาม ใช้วัตถุดิบออร์แกนิคจากในพื้นที่
ส่วนร้านชิคๆ ที่คนรุ่นใหม่เข้ามาทำเค้าก็มี อย่างร้าน Just Pinglin 坪感覺 เค้าเอาบ้านเก่ามารีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นคาเฟ่และร้านอาหารสุดสวย นอกจากนั้นเค้ายังเอาวัตถุดิบของคนในพื้นที่ ทั้งใบชาที่ขึ้นชื่อและผักออร์แกนิคต่างๆ มาทำเป็นเมนูสุดพิเศษให้เราได้ทานด้วย
Just Pinglin 坪感覺
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ 11.00–17.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร) เสาร์-อาทิตย์ 11.00–19.00 น.
Google Maps : https://goo.gl/maps/agXDrAFxz4p5CVcy5
ใกล้ๆ กันเค้าก็จะมีพิพิธภัณฑ์ Pinglin Tea Culture Musuem ด้วย เผื่อใครอยากรู้ว่าขั้นตอนวิธีการตั้งแต่ปลูกยันเก็บเกี่ยวเค้าทำยังไง แล้วมันไม่ได้มีแค่ใบชานะที่เอาไปทำอะไรได้ เมล็ดชาเค้าก็เอาไปทำน้ำมันชาได้เหมือนกันด้วย
ก่อนที่จะไปชมคอลเล็คชั่นของชุดชงชาในสมัยโบราณในวันพรุ่งนี้กันที่ National Palace Museum ป้าก็เลยขอแวะลองไปชิมชาของจริงกันก่อน ไกด์ก็พาขึ้นมาชมไร่ชา Pinglin กันจริงๆ ที่นี่ปลูกกันท่ามกลางหุบเขาสวยงามมาก
ไหนๆ แวะไปชมและถ่ายรูปไร่ชากันถึงที่แล้ว ต้องห้ามพลาดไปลองชิมชาอันโด่งดังของที่นี่นะ ไม่น่าเชื่อว่าชาชนิดเดียวกัน แต่กรรมวิธีเก็บต่างกัน ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ชาบางตัวตอนดมกลิ่นแบบยังไม่ชงหอมอีกแบบ พอชงแล้วเปลี่ยนกลิ่นไปเป็นอีกแบบ ขนาดมหาลัยที่เมืองไทยเค้ายังมาดูงานถึงที่นี่ ราคาก็มีตั้งแต่กิโลละหลักร้อยไปยันหลักพันเลยจ้า
Xiangshan Elephant Moutain เดินไต่บันไดเป็นร้อยขั้นจนขาสั่น ขึ้นชมวิวตึก Taipei 101 ในมุมสูง
มาถึงไทเปทั้งทีแล้ว วัยรุ่นอย่างเราเค้าบอกว่าต้องมาถ่ายรูปกับตึก Taipei 101 กันที่ Xiangshan Elephant Moutain ซักหน่อย ไอ้เราก็คิดว่าเฮ้ยย มันทำทางดีแล้วนะ เดินไม่ยาก คงไม่มีอะไรมั้ง โอ้โหยยย แต่ที่ไหนได้ เดินขึ้นบันไดยาวๆ 20 นาทีจ้า ไปได้ถึงจุดชมวิวจุดแรก ขานี่สั่นหงึกๆ อีคุณสามีก็บิ้ว ไหนๆ มาถึงแล้วต้องไปให้ถึงข้างบนนะ ก็ไต่ๆ กันไปอีกประมาณ 15 นาที ก็คิดว่าเอาละ มาได้จังหวะพระอาทิตย์ตกพอดีแสงต้องสวยแน่ๆ แต่ภาพที่เห็นคือ….
โอ้โหยยย ยิ่งกว่าต่อคิวซื้อชาไข่มุกอี้กกก คนเยอะมากแกร เพราะจุดที่สวยที่สุดมันจะเป็นหินก้อนใหญ่ๆ ก้อนข้างหน้าคนที่เป็นแบบจะต้องปีนขึ้นไปยืน-นั่งกันตามสะดวก ส่วนก้อนข้างหลัง ตากล้องก็จะต้องปีนๆ เอาตัวไปพิงถ่าย ลำบากประมาณเน้ แถมถ่ายได้ทีละคน ไอ้เรารอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ จนพระอาทิตย์ตกไปแล้ว ฟ้าเปลี่ยนสีก็แล้ว จนนู่นนน เกือบจะมืด
ถึงจะได้ถ่าย ป้านี่อยากร้องไห้ โถววว อุตส่าห์ปีนขึ้นมานะเรา รอบหน้าใครจะมาต้องกะเวลาเผื่อมาต่อคิวที่ด้านบนด้วยนะ ถ้าอยากทันแสงเย็น มาซัก 3 โมงกว่าก็น่าจะกำลังดี
แล้วก็เลยแวะมาตรงจุดชมวิวด้านล่าง ตรงที่ยืนเค้าจะมีระเบียงให้วางกล้องถ่ายได้ ก็สวยงามอยู่น้า จิงๆ ตอนแรกถ้ารู้ว่าขึ้นไปไม่ทัน ถ่ายตรงนี้น่าจะได้แสงพระอาทิตย์ตกพอดี
Xiangshan Elephant Moutain
Google Maps : https://goo.gl/maps/24yicGgMXJ4zJNVcA
ไม่ต้องปีนเขาให้เข่าสั่น มุมถ่ายรูปลับๆ กับตึก Taipei 101 อยู่ตรงซอย Takemura Izakaya
เหมือนฟ้าจะเห็นใจ ลงมาจากเขามาเจอมุมถ่ายคู่ตึกไทเป 101 ในตำนานพอดี รู้งี้มานี่ตั้งแต่แรกก็ดี ไม่ต้องปีนเขาให้เข่าสั่น มุมนี้อยู่ตรงร้าน Takemura Izakaya ควรมาตอนเริ่มมืดหน่อยจะสวยกว่าตอนกลางวัน มันไม่ใช่แค่ว่าซอยนี้อยู่ตรงกลางตึกไทเป แต่ด้วยบรรยากาศร้าน Izakaya โคมแดงข้างๆ ช่วยเพิ่มสีสันให้ภาพดูมีเรื่องราวมากขึ้น ได้อารมณ์ญี่ปุ่นผสมไต้หวันเลยจ้ะแม่!!
ความยาก : ด้วยความฮิตมาหัวค่ำตากล้องตั้งขาตั้งกล้องกันให้เต็มพื้นที่จ้า แทบจะไม่มีที่กางเลยของป้าคุณแฟนต้องปีนไปตั้งขาตั้งกล้องบนแท่นฝั่งตรงข้าม
วิธีถ่าย : ของป้าถ่ายมา 2 Shot เก็บไฟแฉกใช้ F ซัก 11 ก็ได้อยู่ แต่แฉกมากแฉกน้อยขึ้นอยู่กับเลนส์นะ ส่วนอีกใบถ่ายเอานางแบบ แล้วค่อยมาทำในคอมอีกทีจ้า
ซอย Takemura Izakaya เดินจากสถานี Xiangshan 10 นาที Exit 1
GoogleMaps : https://goo.gl/maps/N6ZXBjwHF4m6s5Af7
แวะเติมพลังกินเสี่ยว หลง เป่า ที่ Din Tai Fung การันตีความอร่อยระดับ Michelin Star
มาถึงไต้หวัน หนึ่งในร้านดังที่ควรมาตำนั่นคือ Din Tai Fung ร้านอาหารจีน ที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่าง เสี่ยว หลง เป่า อย่างป้านี่แวะมากินที่ชั้นใต้ดินของตึก Taipei 101 เพราะวันนี้เรามีมิชชั่นจะขึ้นไปชมวิวกันซักหน่อย แต่สิ่งที่เจอคือ คิวเยอะม้ากกกจ้า เพราะฉะนั้นแนะนำใครที่จะมากินสาขานี้ อย่ามาช่วงเที่ยงหรือมื้อเย็น เพราะต้อรอคิวอย่างต่ำครึ่งชั่วโมงเลยน้า
ส่วนตัวอาหารนี่ก็อร่อยจิง อย่างเสี่ยว หลง เป่า นี่เค้าทำใหม่ๆ เสิร์ฟมาร้อน ๆ ในเข่งไม้ไผ่ แป้งเหนียวนุ่ม ข้างในเป็นไส้หมูมีซุปอุ่นๆ อยู่ด้วย จิ้มกับซอสจิ๊กโฉ่วกับขิงซอย ฟินม้ากกก ส่วนเมนูที่ชอบรองลงมาก็จะเป็นเกี๊ยวกุ้งซอสพริก และข้าวผัดพอร์คช็อป ใครไม่อิ่มให้รู้กันไปเพราะเสิร์ฟมาจานใหญ่ม้ากกก ราคาอยู่ประมาณ 100–200 ก็ถือว่าไม่ได้แรงมากนะ
Din Tai Fung สาขา Taipei 101
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 11.00–22.00 น.
Google Maps : https://goo.gl/maps/cFAkLU8NaYmW9bxa6
ชมวิวยามค่ำคืนของเมืองไทเปแบบ 360 องศา ที่ตึก Taipei 101
หลังจากอิ่มเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปชมวิวข้างบนตึกแลนด์มาร์คแห่งไต้หวันอย่าง ตึก Taipei 101 กันซักหน่อย ค่าเข้าก็อยู่ที่คนละ 600 บาท พอซื้อเสร็จก็ขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิว Taipei 101 Observatory ที่ชั้น 89 คือมันอะแมสซิ่งม้าก ลิฟท์นางเร็วเว่อร์คือเป็นลิฟท์ที่ได้รับการลงเป็นสถิติว่าเร็วที่สุดในโลกโดยกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดที่ความเร็ว 1,010 เมตรต่อนาที ตดยังไม่ทันหายเหม็น ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีก็ถึงแล้วจ้า เราสามารถเดินชมวิวได้รอบๆ แต่ผิดหวังมาก กระจกนางไม่ค่อยสะอาด ถ่ายรูปยากมาก
นอกจากนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 ได้ด้วย และที่ป้าชอบมากคือ แม้ว่าไต้หวันจะแผ่นดินไหว หรือมรสุมมาบ่อยแค่ไหน ตึกนี้ก็ยังคงยืนหยัดสู้เพราะเค้ามีลูกตุ้มยักษ์ Wind Damper ที่ช่วยเรื่องการทรงตัวของตึกเมื่อรับมือกับแผ่นดินไหวและลมพายุ เป็นอะไรที่เจ๋งม้ากกก
Taipei 101 Observatory
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09.00–22.00 น.
Google Maps : https://g.page/101OB?share
พิพิธภัณท์พระราชวังกู้กง National Palace Museum แวะชมสมบัติโบราณวัตถุและศิลปะต่างๆของชาวจีนอยู่มากกว่า 700,000 ชิ้นงาน
จะมือใหม่หรือคนที่มาเที่ยวไทเปบ่อยแล้ว แนะนำให้ลองมาชม พิพิธภัณท์พระราชวังแห่งชาติกู้กง (National Palace Museum) กันดูนะ ที่นี่เค้าเป็นพิพิธภัณท์ที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่มากที่สุดในโลก ซึ่งในปัจจุบันจัดแสดงสมบัติโบราณวัตถุและศิลปะต่างๆ ของชาวจีนอยู่มากกว่า 700,000 ชิ้นงานเลยทีเดียว โดยเฉพาะสองชิ้นที่คนไทยนั้นอยากมาดูนั่นคือ หยกผักกาดขาว และ หินหมูสามชั้น
มาถึงแล้วเราสามารถซื้อตั๋วได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติได้เลย ราคา 350 บาท โดยโบราณวัตถุต่างๆที่จัดแสดงนั้น ใหญ่ถูกนำมาจากในพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ของเมืองปักกิ่งที่ถูกขนย้ายมาในช่วงสงครามกลางเมืองจีน ซึ่งถูกย้ายมาในช่วงที่เจียงไคเชก แพ้สงครามแล้วล่าถอยมาอยู่ที่เกาะไต้หวันแห่งนี้ ซึ่งภายในหลังมีการสร้างอาคารพิพิธภัณท์จัดแสดงขึ้นที่นี่ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่วัตถุโบราณตั้งแต่ 10,000 ปีก่อน ยุค Neolithic มาจนถึงยุคราชวงศ์ฉิง (Qing Dynasty)
ชั้น 1 ห้องจี่ฉงเจ่า เป็นห้องจัดแสดงผลงานสะสมชิ้นเอกและหายาก อย่างชิ้นนี้ก็จะเป็นงาช้างแกะสลักทรงกลมซ้อนหลายชั้นในปลายราชวงศ์ชิง
ส่วนไฮไลท์ที่ชั้น 3 ชั้นนี้จะเป็นแหล่งรวมสมบัติล้ำค่ำของชาติ แอบเสียดายวันที่ป้าไปเค้าเอาหินขาหมูไปโชว์อีกที่นึง แต่ยังดีที่ หยกผักกาดขาว นั้นยังอยู่ แว้บแรกที่ดูคือแบบ โอ้โห สวยมาก ประหลาดใจว่าทำไมสีสันและลวดลายมันช่างลงตัวขนาดนี้ แถมการแกะสลักก็ปราณีตสุดๆ ใครที่มาที่นี่ ห้ามพลาดน้า
นอกจากนั้น็ยังมีทั้งพวกนิทรรศการแสดงเครื่องหยก เครื่องปั้นดินเผา เครื่องสัมฤทธิ์ที่ทรงคุณค่าตามกาลเวลาให้ชมอีกมากมาย
ส่วนคนที่ไปไม่ต้องกลัวฟังไม่รู้เรื่องนะ เค้ามีเครื่องแปลเป็นในแต่ละภาษาด้วย รวมถึงภาษาไทยด้วยจ้า สามารถกดและฟังประวัติควมเป็นมาของวัตถุโบราณแต่ละชิ้นได้เลยจ้า
พอชมเสร็จ ใครที่ชื่นชอบก็ลงมาเดินเล่นที่ร้านขายของที่ระลึกด้านล่างได้ต่อ ของน่ารักๆ เยอะมากกก อย่างตัวหมอนรองคอที่เป็นทรงผมผู้หญิงโบราณก็มี หรือตะเกียบเค้าก็ดีไซน์มาให้อยู่ในด้ามกระบี่ น่าร้ากเยอะมาก ราคาไม่แพงเลย
เดินชมพิพิธภัณฑ์กู้กงเสร็จอย่าลืมแวะมากินข้าวที่ร้าน Silks Palace ด้วยนะ เค้ามีเมนูพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานที่จัดแสดงโชว์ด้วย ขนาดหยกผักกาดกับหินหมูสามชั้นยังเอามาทำซะเหมือน รสชาติกับราคาถือว่าไม่แรงม้ากจ้า
National Palace Museum
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30–18.30 น.
Google Maps : https://goo.gl/maps/LEWGZHWZRVW2tGf79
ย้อนอดีตวันวาน เดินเล่นย่าน Dadaocheng ถ่ายรูปกับตึกเก่าสุดวินเทจแบบเจาะลึก กับ WALK in TAIWAN ทัวร์ส่วนตัวที่พาเดินพร้อมเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังอย่างละเอียดยิบ!!
ใครที่ชอบถ่ายรูปแนววินเทจแต่ไม่ชอบคนเยอะ แนะนำให้มาย่าน Dadaocheng เลย Dihua Walking Street ย่านนี้คือชิวมาก เค้าอนุรักษ์ตึกเก่าๆ สถาปัตยกรรมของอาคารสไตล์บาโรกไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยในอดีตหลังจากที่เปิดท่าเรือต้านสุ่ยในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ต้าเต้าเฉิงก็เริ่มเจริญ ทำให้กลายเป็นย่านการค้าที่ร่ำรวย สถาปัตยกรรมของอาคารในย่านนี้ก็เลยได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกด้วย
ส่วนใครอยากลงดีเทลเจาะลึกแนะนำให้ใช้ทัวร์ไกด์ท้องถิ่นอย่าง WALK in TAIWAN ที่จะพาเราย้อนอดีต เล่าความเป็นมาแบบเจาะลึก เก็บรายละเอียดทุกมุม และยิ่งเค้าจับมือกับ Tripool คือเรานี่สบายเลย มีรถไปรับถึงโรงแรม แล้วเค้าพาเที่ยวหมด สบายมากๆ มีทัวร์ให้เลือกหลายหลายแบบ ใครสนใจแวะเข้าไปชมแพคเกจได้เลย
WALK in TAIWAN
เว็บไซท์ : https://www.taipei-walkingtour.tw/en001
เวลาทำการ : 10.00–19.00 น.
โดยรอบๆ นี้มีทั้งห้างขายชา ห้างขายผ้า ร้านขายยาสมุนไพรจีน ล้วนแต่เต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์ของเมืองเก่า ภายในเขตถนนโบราณที่มีประวัติยาวนานแห่งนี้ มีร้านค้าเก่าแก่ที่มีสืบทอดมานานนับร้อยปี
Dihua Walking Street
Google Maps : https://goo.gl/maps/nsUT8FyDiQ9C92Zp6
แวะหาอะไรเย็นๆ ทานซักหน่อย ร้านนี้ชื่อ Da dao Chen 大盜陳 ชาเค้าน่ารักมาก แก้วของป้าเป็นชาหมีขั้วโลกเหนือจ้า น้ำแข็งนางเป็นรูปหมีโพลาร์ 555 คิ้วท์สุดๆ ส่วนอีกแก้วของคุณสามีเป็นชาชีสด้านบนโรยด้วยไข่ปลา ล้ำไปอีกกก จะหวานนิดๆ เค็มหน่อยๆ แปลกดี
Da dao Chen 大盜陳
Google Maps : https://goo.gl/maps/tY3djQXgjhXUci2i7
เดินต่อมาอีกนิดตรงนี้คือดีม้ากก ตึกสถาปัตยกรรมเก่าๆ เพียบ เพราะเมื่อก่อนแถวนี้เคยเป็นทำเลที่ค้าขายกับชาวต่างชาติ เลยได้รับอิทธิพลของชาติอื่นๆ มาด้วย ตัวอาหารก็จะมีทั้งแบบฝูเจี้ยน, บารอค และญี่ปุ่น ตัวอาคารค่อนข้างสมบูรณ์มากนะ เค้าอนุรักษ์กันอย่างจริงจัง แถมยังเป็นตลาดที่คนไต้หวันชอบมาจับจ่ายซื้อของ ใบชา สมุนไพรต่างๆ อารมณ์เหมือนย่านเยาวราชบ้านเรานี่เลย
เลยไปอีกนิดใครชอบมาดูวิว ชอบความชิว แนะนำให้มาที่ Dadaocheng Wharf เค้าพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มาขี่จักรยานหรือเดินเล่นได้ ใครมีเวลาแวะวมาเช่าจักรยานปั่นเล่นริมน้ำชมวิวกันได้
Dadaocheng Wharf
Google Maps : https://goo.gl/maps/XooLk8PMyi9KdKMk6
ไหว้พระยังไงให้ได้ผู้ ใครอยากขอคู่ต้องมาไหว้เทพเจ้าเสียไห่ที่วัด Xia Hai Temple
นอกจากย่านนี้จะชิลเหลือเกิน สายมูที่อยากขอผู้หรือหาคู่แนะนำให้มาไหว้พระที่ Xia Hai Temple ที่นี่ติดหนึ่งในเรื่องของวัดที่วัยรุ่นไต้หวันที่ดังในเรื่องขอพรความรัก ไปยันคู่ครองที่มาขอพรให้มีชีวิตคู่ที่ราบรื่น ใครสายมูอย่าลืมมาลองกันนะจ้ะ
Xia Hai Temple
Google Maps : https://goo.gl/maps/q2MvekbStB9ojwQi7
In Bloom ร้านผ้าสุดคิ้วท์ แวะไปลองทำกระเป๋า สกรีนพิมพ์ลายผ้าออกแบบลายได้ตามใจชอบ
ใครอยากได้กระเป๋าลายของตัวเอง ย่านนี้เค้าก็มีร้านสายคราฟ สายแฮนด์เมดเพียบอย่าง In Blooom ร้านผ้าสุดคิ้ว ที่เราสามารถไปเข้าคลาสทำกระเป๋าลายเก๋ๆ มีทั้งลายชาไข่มุก ลายกระเบื้อง ลวดลายสิ่งของรอบตัวเราออกมาได้อย่าสวยงาม วิธีทำก็ไม่ยาก มีเวลาแค่ 30 นาทีก็ทำได้ละ นอกจากนั้นเค้าก็ยังมีของน่ารักกระจุ๊ก กระจิ๊ก ให้เลือกซื้ออีกเพียบ
In Bloom
เวลาเปิด-ปิด : 09.30–19.00 น. (เปิดทุกวัน)
Google Maps : https://g.page/inBlooom-Dadaocheng?share
ปิดท้ายด้วยตะลุยกินที่ตลาด Ningxia night market ห้ามพลาด!! หอยทอดมิชลิน ซุปตับโคตรเริ่ด
เดินเล่นจนเย็นเสร็จก็ไม่ต้องไปไหนไกล มาเดินเล่นบริหารพุงกันต่อที่ตลาดกลางคืน Ningxia night market ที่นี่เป็นหนึ่งในที่บอกว่ามีร้านของกินที่เด็ดมาก ตัวตลาดอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ร้านนี่เด็ดดวงอลังการอยู่ วิธีการสุ่มไปกินร้านไหน ถ้าเห็นคิวยาวๆ มั่นใจไปต่อได้เลย
อย่างร้านนี้หอยทอดมิชลิน คือเคยไปกินร้านธรรมดามาที่เถาหยวน ไม่ค่อยประทับใจ แต่พอมากินร้านนี้ โหยยย มันอร่อยม้ากก อย่างหอยทอด เค้าจะทำคล้ายๆ ออส่วนบ้านเรานิดๆ ใส่หอยนางรมตัวโต แต่มีใส่ผักด้วยนะ ส่วนอีกอันนึงจะเป็นหอยนางรมลวกแล้วราดซอสเต้าเจี้ยวกินคู่กับขิง อันนี้ก็ดี หอยหวานมาก อร่อยสุดพลัง
ร้านนี้โคตรเด็ดคนต่อคิวเยอะมาก Rong’s Pork Liver ติดอันดับ Bib Gourmand ปี 2019 นะเธ้อ ซุบตับเจ้าเก่าแก่ขายมาตั้งแต่ปี 1950 ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุปหอมหวาน บวกกับตับที่ลวกมากำลังดี นุ่มๆ เนื้อเด้งๆ แถมราคาไม่แพง ชามละ 55 บาทเอ้ง
ส่วนอีกร้านเป็นของหวานชื่อ Beans Village เป็นน้ำแข็งใสราดถั่วลิสง มีทั้งแบบใส่ไข่มุกและใส่เหมือนแป้งบัวลอยเผือกหรือมัน ใครชอบแนวถั่วนี่ต้องชอบแน่ๆ แต่ชามใหญ่เอาเรื่องอยู่
ซื้อวันนี้รวยวันหน้า มาไต้หวันอย่าลืมมาลองซื้อหวยขูดกันเล่น ลุ้นหลักร้อย โชคดีได้หลักล้าน
มาไต้หวันทั้งทีอย่าลืมมาลองเล่นหวยขูดที่บ้านเค้าดู วิธีการไม่ยากเลย มีตั้งแต่ใบละ 100–2,000 รางวัลก็มากขึ้นตามราคา วิธีการง่ายมาก แค่ขูดๆ แต่มันจะมีวิธีการลุ้นหลายแบบอยู่ อันที่ง่ายก็จะเป็นแบบใบสีชมพู ใบละ 100 บาท ตอนแรกก็จะให้ขูดฝั่งซ้ายก่อน จะมีบอกว่าเราได้เลขอะไรบ้าง แล้วก็ไปขูดฝั่งขวา ถ้าโชคดีเจอเลขตรงกันก็จะบอกว่าเราได้เท่าไหร่ มีรางวัลตั้งแต่ 200 ยันถึง 1,000,000 บาทเลยแม่
